หอการค้าไทยเผย 20 เจ้าสัวพร้อมร่วมมือนายกฯแก้ปัญหาโควิด-เศรษฐกิจ ทาบไว้หมดแล้ว ทั้งซีพี เจ้าสัวเจริญ ธนาคารกรุงเทพ ปูนใหญ่ กระทิงแดง เซ็นทรัล
-วิษณุให้รอดู- ยันไม่ทำจดหมายไปขอเงินเจ้าสัว
หลังจากนายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่าจะทำจดหมายเปิดผนึกเชิญ 20 มหาเศรษฐีอันดับต้นของประเทศ มาร่วมแก้วิกฤตโควิดและเศรษฐกิจ จนมีกระแสวิจารณ์ว่าจะมีการขอเงินจากมหาเศรษฐี ต่อมาวันที่ 18 เม.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในส่วนของรายชื่อนักธุรกิจที่จะส่งจดหมายเชิญนั้นตนไม่ได้ดูในส่วนนี้ แต่ตนดูในส่วนของเนื้อหาและข้อความที่จะเขียนในจดหมายเท่านั้น เมื่อถามถึงกรณีกระแสในทวิตเตอร์พากันติดแฮชแท็กว่าเป็นรัฐบาลขอทานนั้น นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ทำหนังสือไปขอเงิน ขอให้ดูข้อความในจดหมายว่าเราเขียนไปขออะไร แต่ยืนยันไม่ได้ไปขอเงิน อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะชัดเจน เพราะนายกฯจะเป็นผู้ดูในรายละเอียดเองทั้งหมด
-ปธ.หอค้าเผย 20 เจ้าสัวพร้อมร่วมมือบิ๊กตู่
นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีนายกรัฐมนตรีจะส่งจดหมายเปิดผนึกเทียบเชิญมหาเศรษฐีไทยทั้งนักธุรกิจและเจ้าสัว 20 คน เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตชาติว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมหาเศรษฐี 20 อันดับแรกเป็นสมาชิกหอการค้าอยู่แล้ว และได้รับการยืนยันมาก่อนหน้านี้ว่าทุกคนพร้อมร่วมมือกับนายกฯเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับเจ้าสัว มหาเศรษฐีต่างๆ ไว้บ้างแล้วทั้ง นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการกลุ่มทีซีซีกรุ๊ป นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจในเครือกระทิงแดง น.ส.วัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และนายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เป็นต้น
“อย่างไรก็ตาม เศรษฐีที่ไม่ได้ติดอันดับ แต่เป็นเศรษฐีใหญ่ในไทย ทุกคนยินดีร่วมมือช่วยเหลือรัฐบาลทุกด้านอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเข้ามาแก้ไขเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านให้ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดบอกว่าถ้านายกฯเชิญพวกตนเมื่อไรก็พร้อมไปทันที อีกทั้งที่ผ่านมาได้มีการเสนอแนวคิดการแก้ปัญหาให้นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ผ่านทางหอการค้าฯและคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย และทั้งหมดประกาศว่าจะไม่ปลดพนักงาน พร้อมช่วยเหลือลูกจ้างพนักงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ” นายกลินท์กล่าว
-ชัชชาติเผยกัลฟ์แจกข้าวแสนกล่อง-ข้อมูลคนจนอื้อ
วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม โพสต์เฟซบุ๊กว่า อาทิตย์ที่แล้วผมเป็นตัวแทนของชุมชนไปรับมอบข้าวกล่องจากทางบริษัท Gulf ที่ทำมาแจก โดยเพิ่มจากวันละ 2,000 กล่อง เป็นวันละ 2,500 กล่อง มีออม (สิตมน รัตนาวะดี) ลูกชายกลาง (สารัชถ์ รัตนาวะดี) CEO ของ Gulf มาเป็นตัวแทนมอบ โดยจะแจกจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม รวมประมาณแสนกว่ากล่อง เมื่อวาน ผมนำข้าวกล่องบางส่วนไปแจกชุมชนปู่เจ้าสมิงพรายและชุมชนประชากร 4 แถวดอนเมือง
นายชัขชาติโพสต์อีกว่า กลางหรือสารัชถ์ (สารัชถ์ รัตนาวะดี) ก็คงจะเป็น 1 ใน 20 คนที่ทางรัฐบาลเชิญไปช่วยให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาโควิด ผมหวังว่าข้อมูลที่ Gulf ได้เห็นจากการลงพื้นที่ไปแจกข้าวให้แก่ผู้ยากลำบากในชุมชนต่างๆ ที่เป็นเส้นเลือดฝอยในหลายๆ วันมานี้ จะสะท้อนความยากลำบากของชุมชน รวมมาเป็นคำแนะนำและความช่วยเหลือที่มีประโยชน์กับทางรัฐบาล
– ย้ำต้องช่วยคนให้อยู่รอด
วิกฤตโควิดของไทยตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวโรคโควิดโดยตรง แต่อยู่ที่มาตรการการควบคุมโรคไม่ให้เชื้อแพร่ระบาด จึงทำให้เกิด Social Distancing ต้องลดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนำไปสู่ความต้องการทางเศรษฐกิจที่ลดลง ห้างร้านไม่มีลูกค้า รถรับจ้างไม่มีคนนั่ง สถานที่ต่างๆ ไม่มีนักท่องเที่ยว เกิดการเลิกจ้าง ลดค่าจ้าง พักงาน สิ่งที่สำคัญคือจะทำอย่างไรให้คนอยู่รอดจนถึงจุดที่ความต้องการทางเศรษฐกิจและความมั่นใจเริ่มฟื้นกลับมา วิกฤตครั้งนี้ต้องให้ทุกคนรอดไปด้วยกัน จะฟังคนรวยแล้ว ต้องอย่าลืมฟังและเข้าใจปัญหาของคนจนด้วยครับ
