ก.อุตยันรัฐบาลไทยยังไม่แพ้คดีเหมืองทอง

ก.อุตยันรัฐบาลไทยยังไม่แพ้คดีเหมืองทอง

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด กล่าวกรณีมีประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า “คำพิพากษาออกมาแล้วว่า ประยุทธ์กับคณะต้องจ่ายค่าเสียหาย 6 หมื่น 7 พันล้านบาทไทย เป็นการส่วนตัว และต้องจ่ายเป็นเหรียญทองคำ ภายใน 1 เดือน ถ้าผิดคำสั่ง ออกหมายจับทั่วโลกทันที”นั้น ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ

“ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพิ่งดำเนินกระบวนการสืบพยานที่ประเทศสิงคโปร์ และยังมีขั้นตอนที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องดำเนินการตามกำหนดการเพื่อยื่นเอกสารต่อคณะอนุญาโตตุลาการ ดังนั้น กระบวนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการจึงยังไม่เสร็จสิ้น และยังไม่มีคำชี้ขาดแต่อย่างใด รวมทั้งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้แน่ชัดว่าจะมีคำชี้ขาดเมื่อใดเช่นกัน”นายกอบชัยกล่าว

รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังนายกอบชัย นำทีมงานให้การต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่ประเทศสิงคโปร์ กรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ฟ้องร้องรัฐบาลไทย กรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งระงับการประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ คาดว่าช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้จะมีคำพิพากษาในคดี

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในการฟ้องร้องของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดดเต็ด ลิมิเต็ด บริษัทแม่ของ บริษัท อัคราฯ ระบุว่า ไทยละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย ที่ผ่านมาทางบริษัท อัคราฯ ได้ประเมินตัวเลขความเสียโอกาสของเหมืองอัครา โดยวัดจากปริมาณสำรองแร่ทอง 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินปริมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท สามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า รวมมูลค่าทั้งสิ้น 41,004 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image