บทนำมติชน สู่‘นิวนอร์มอล’

 

การประกาศผ่อนคลาย ให้เปิดธุรกิจ สถานประกอบการ และกิจกรรมบางประเภท พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เกิดปรากฏการณ์ที่ประชาชนหลั่งไหลไปใช้บริการ ตัดผม เข้าร้านเสริมสวย นั่งร้านอาหาร ซื้อเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศอยู่ในสภาพล็อกดาวน์ ประชาชนต้องสละเสรีภาพ เพื่อสร้างระบบต่อสู้การแพร่ระบาดของไวรัส และรักษาสุขภาพของส่วนรวม

ศบค.ย้ำว่า การผ่อนคลายในครั้งนี้เป็นการทดลอง หากเกิดการแพร่ระบาด หรือเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอีก อาจจะต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มข้นอีกครั้ง ขณะที่องค์การอนามัยโลกเตือนว่า การคลายล็อก ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะหากเกิดการระบาดรอบสอง มักจะหนักกว่าการระบาดรอบแรก ซึ่งถือเป็นคำเตือนที่ทุกฝ่ายต้องรับฟังและตระหนัก

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้กับการแพร่ระบาดในครั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ รักษาชีวิตทางเศรษฐกิจของประเทศให้เดินไปพร้อมกันด้วย ต้องให้ผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุุรกิจได้ และให้ประชาชนทำอาชีพสร้างรายได้ไปพร้อมกัน ภายใต้มาตรการดำเนินการใหม่ที่เรียกว่า “นิวนอร์มอล” การเปิดธุรกิจเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ชี้แนวโน้มใหม่ว่า คนไทย สังคมไทยสามารถปรับตัวได้ รัฐบาลจึงต้องเข้าใจและคิดค้นมาตรการที่เหมาะสมมาใช้

Advertisement

แน่นอนว่า การปรับตัว การสร้างมาตรฐานใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องประกอบกันทั้งแนวคิดทางการแพทย์ ทางรัฐศาสตร์ กฎหมาย เศรษฐกิจและการเมือง ความอยู่รอดของประเทศในขณะนี้ และในอนาคตอันใกล้ คือ การรักษาสถานะไม่เพลี่ยงพล้ำในเรื่องการแพร่ระบาด และประชาชนมีชีวิตปกติสุขพอสมควร สามารถทำอาชีพ มีรายได้ ร่วมขับเคลื่อนประเทศไปพร้อมๆ กันทุกฝ่าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image