แจ้งข้อหาเสมียนทนาย-ร.ต.อ. คดียิงกลางศาลจันทบุรี”พล.ต.ต.”ดับ พบมรดกที่ดินของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุ

แจ้งข้อหาเสมียนทนาย-ร.ต.อ.ปมยิง อดีตรองจเรตำรวจในศาลจันทบุรี จ่อเรียก”บุญช่วย” อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน หลังหลักฐานปรากฎเป็นธรณีสงฆ์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. แถลงความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติ อายุ 67 ปี ก่อเหตุยิงนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ และนายวิจัย สุขรมย์ ทนายโจทก์ รวมถึงบุคคลอื่น ระหว่างเข้ารับฟังการพิจารณาคดีการฟ้องร้องทางแพ่งเกี่ยวกับที่ดินขนาด 3,800 ไร่ ใน อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ภายในศาลจังหวัดจันทบุรี ก่อนที่เสมียนทนายฝ่ายโจทก์จะใช้อาวุธปืนยิงใส่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562

พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ภายหลัง น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท อดีตภรรยา พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้มาร้องขอให้ตำรวจกองปราบโอนสำนวนในคดีที่นายธนากร วีรวโรดม เสมียนทนาย ใช้ปืนของร.ต.อ.ขจร บรรจง รอง สวป.สภ.เมืองจันทบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจศาล ยิง พล.ต.ต.ธารินทร์ เสียชีวิต ซึ่งแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองจันทบุรี กับคดีการยักยอกที่ดินดังกล่าวมาให้กองปราบรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนั้น จากการสอบสวนนายธนากร ให้การอ้างว่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ได้เล็งอาวุธปืนไปยังฝ่ายคู่กรณี ตนจึงใช้ปืนที่ ร.ต.อ.ขจร ส่งมาให้ ยิงเพื่อระงับเหตุ แต่จากการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์นั้น ยืนยันว่าคำให้การนายธนากร ขัดแย้งกับหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฎ พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาแจ้งข้อหาดำเนินคดีฐาน ฆ่าผู้อื่นและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อ ส่วน ร.ต.อ.ขจร ที่เป็นผู้ยื่นปืนให้นายธนากร ตามที่หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฎนั้น ถือว่าไม่กระทำตามหลักการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งไม่ได้จับกุมนายธนากร หลังยิงปืนใส่ พล.ต.ต.ธารินทร์ พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาดำเนินคดีฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่น โดยวันนี้จะส่งสำนวนให้อัยการคดีทุจริตภาค 2 ดำเนินการต่อไป

พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดินกว่า 3,800 ไร่ ที่มีการฟ้องร้องกันนั้น จากการรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารราชการ การสอบสวนพยานบุคคลและประจักษ์พยานอื่นทั้งหมด พบว่าที่จริงแล้วมีที่ดินทั้งหมดกว่า 4 พันไร่ ซึ่งเป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุจริง จากนี้จะมีการประชุมก่อนให้พนักงานสอบสวนออกเรียกนายบุญช่วย เจริญสถาพร ที่อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดิน ผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงบุตรชาย และขบวนการที่ออกเอกสารเท็จเพื่อช่วยให้ที่ดินกลายมาเป็นนายบุญช่วยมาดำเนินคดีตามกฎหมายในเร็ววัน ทั้งนี้ยังไม่ปรากฎชัดว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องหรือไม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image