อุดม ศรีมหาโชตะ
อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย
เจ้าของโรงแรมบ้านทะเลดาว
อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
หากมองภาพรวมในประเทศการเปิดและปิดโรงแรม โดยประกาศคำสั่งของแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ รัฐบาลอาจเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อน้อยลง และต้องดูว่าวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ศบค.ผ่อนปรนให้เปิดห้างสรรพสินค้าได้ทั้งหมดหรือไม่ เพื่อคลายล็อกเฟส 2 หรือหากเปิดห้างแล้ว ระบบการควบคุมไม่ดี ยังมีระบาดรอบที่ 2 อีก รัฐบาลจะทำอย่างไร จะต้องกลับไปใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกครั้งหรือไม่
จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ประกอบการหลายรายต้องการเปิดโรงแรมในวันที่ 18 พฤษภาคม เพื่อให้บริการ ขณะที่ประกาศจังหวัดยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการกำหนดระยะเวลาการเปิดบริการ ที่สำคัญรัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกกำหนดเวลาเคอร์ฟิว ทำให้มีปัญหาในการเดินทางช่วงเวลา 22.00-04.00 น. รวมทั้งบางจังหวัดยังเข้มงวดการเดินทางข้ามจังหวัด เป็นปัญหาและอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่จะมาจากพื้นที่เสี่ยงอีกหลายจังหวัด ส่วนตัวเห็นว่าก่อนเปิดโรงแรมในช่วงใดก็ตาม ผู้ประกอบการต้องประเมินว่ามีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่เป็นมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข สมาคมโรงแรมไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือไม่ เพื่อให้ผู้รับบริการมีความมั่นใจให้มากที่สุด
ขณะเดียวกันปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในระยะสั้นยังไม่ส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวเท่าที่ควร มีการประเมินว่าการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมอาจไม่ดีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เพราะนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 50% โดยเฉพาะกลุ่มต่างชาติยังมีปัญหาพอสมควร ดังนั้นภาครัฐควรกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ดีก่อน หากไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากและมาตรการทุกอย่างได้ผล เชื่อว่าในเดือนกรกฎาคมนี้โรงแรมทั่วประเทศที่มีใบอนุญาตถูกต้อง น่าจะเปิดให้บริการได้เพื่อให้ทางราชการใช้สถานที่จัดการประชุม สัมมนา หรือเปิดให้เข้าพักเฉพาะนักท่องเที่ยวภายในประเทศก่อน
ขอเรียกร้องให้ภาครัฐตรวจสอบบ้านพักพูลวิลล่า หรือคอนโดมิเนียมบางแห่งที่ อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี ทำธุรกิจนอกเหนือจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ บางแห่งยังประกาศขายห้องพักรายวันผ่านสังคมโซเชียล ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 ทั้งที่มีประกาศสั่งปิด ขณะที่หน่วยงานฝ่ายปกครองไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบผู้เข้าพักโดยพลการในคอนโดมิเนียม และบ้านพักพูลวิลล่าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล
สำหรับโรงแรมที่มีใบอนุญาต เมื่อมีลูกค้าเข้าพัก จะต้องบันทึกการเข้าพัก และลงในแบบผู้เข้าพัก รร.4 ส่งให้ฝ่ายปกครองอำเภอทุกวันและมีการสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้เข้าพักทั้งหมด เก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบและสืบสวนย้อนหลังได้ ที่สำคัญจะต้องติดตามเพื่อหาข้อมูลย้อนกลับของผู้เข้าพักในกรณีที่มีการติดเชื้อ หรือใกล้ชิด หรือสัมผัสผู้สงสัยอาจจะติดเชื้อ ขณะที่การเปิดโรงแรมเถื่อน ผู้ประกอบการจะไม่มีมาตรการเหล่านี้ เพื่อให้ตรวจสอบย้อนหลัง
รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์
รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ประจวบคีรีขันธ์
เจ้าของโรงแรมหัวหินแกรนด์แอนด์โฮเต็ล
มาตรการรัฐบาลเพื่อคลี่คลายการระบาดของโควิด-19 ทำได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบเหมือนการขับรถแล้วต้องเข้าเกียร์ 1 ถึงเกียร์ 3 อย่างน้อยภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้เพียงเล็กน้อย จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน ดังนั้นการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดโรงแรมเชื่อว่ายังทำได้ยาก แม้ว่าอาจจะมีการคลายล็อกให้ เชื่อว่าโรงแรมจะเปิดบริการได้จริงเต็มรูปแบบไม่มาก เพราะผู้ประกอบการบางรายยังไม่พร้อมด้านการลงทุน เนื่องจากบรรยากาศโดยภาพรวมไม่เอื้ออำนวยให้คนออกมาท่องเที่ยว ประกอบกับการติดเงื่อนไขจากการกำหนดเวลาเคอร์ฟิว เพราะฉะนั้นธุรกิจทุกประเภทจะต้องค่อยๆ ทยอยผ่อนปรนบนพื้นฐานของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวด และมีการประเมินจากสถานการณ์จริงทุกระยะ
ในอนาคตหากมีการเปิดโรงแรมการจ้างงานบางส่วนเชื่อว่าจะลดลง เพื่อลดต้นทุน จากภาวะ นิว นอร์มอล เนื่องจากผู้ประกอบการจะหันมาใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการธุรกิจมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มทักษะในการทำงานของลูกจ้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำได้หลายหน้าที่ และการกำหนดค่าตอบแทนจะต้องพิจารณาจากผลงานที่ทำเป็นหลัก
สำหรับหัวหินมีผลกระทบพอสมควร เนื่องจากรายได้หลักของหัวหินตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน มาจากการธุรกิจท่องเที่ยวแทบทั้งหมด ดังนั้นการเปิดโรงแรม รวมทั้งกิจการที่ต่อเนื่องกับการให้บริการก็ทำให้มีคนตกงานขาดรายได้ค่อนข้างสูง และเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่า 1 ปี จึงจะฟื้นฟูได้เพียงเล็กน้อย เพราะการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เป็นเป้าหมายหลักของโรงแรมในพื้นที่ อ.หัวหิน จะต้องมีหลักเกณฑ์และขั้นตอนมากมายจากการคัดกรองหรือการกักตัว
ปัญหาจากโควิด 19 จะเปลี่ยนรูปโฉมของการท่องเที่ยวทั้งหมด จะไม่มีวันกลับไปมีบรรยากาศเหมือนเดิม โดยเฉพาะการใช้หลักการตลาดของโรงแรมจะต้องปรับตัวมากที่สุด รวมทั้งการทำตลาดในต่างประเทศก็มีความยุ่งยาก ไม่สามารถวางเป้าหมายได้ชัดเจน หรือหวังผลได้ในระยะสั้นๆ
ละเอียด บุ้งศรีทอง
นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน)
ต้องเข้าใจก่อนว่าโรงแรมไม่ได้ถูกสั่งปิด แต่ห้องอาหาร ฟิตเนส สปา และห้องประชุม ถูกสั่งปิด เพราะฉะนั้นก็ไม่เกี่ยวกับการจะเปิดโรงแรมหรือไม่ และในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมีจังหวัดเดียวที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งปิด คือจังหวัดน่าน แต่ผู้ประกอบการทั้งหมดไม่เปิดกิจการ เพราะไม่มีลูกค้า จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งขับเคลื่อนจัดการปัญหาในส่วนของการเยียวยาบริษัทหรือผู้ประกอบการในเชิงธุรกิจอย่างเร่งด่วน
อารมณ์อย่างนี้เชื่อว่าไม่มีใครอยากออกมาเที่ยว และไม่ใช่วันหยุดยาว ต้องเข้าใจก่อนว่าโรงแรมมีตลาดสองส่วนคือ ในประเทศ และต่างประเทศ มีสองกลุ่ม สหรัฐอเมริกา ยุโรปและอีกหลายประเทศมีความสาหัสมากกว่าเรา เชื่อว่าการจะกลับมาเที่ยวคง
อีกนาน ส่วนประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกและเซาส์อีสเอเชียก็ยังหนักอยู่เช่นกันเกือบทุกประเทศ เชื่อว่าใน 1-2 ปีหน้าจะกลับมาปกติหรือไม่ก็ยังไม่มั่นใจเลย
สิ่งที่มุ่งหวังได้คือ ตลาดในประเทศ ภาครัฐต้องดำเนินการกระตุ้นในเกิดการใช้จ่าย ทั้งการจัดประชุมสัมมนา ในแง่ของโรงแรมหรือมาตรการต่างๆ เราพร้อมอยู่แล้ว ขอให้กระตุ้นจุดนี้ให้ได้ก่อนในทุกภาคไม่เฉพาะภาคเหนือหรือเชียงใหม่ ในสถาวะการณ์แบบนี้คงไม่มีใครกล้าใช้เงิน เพราะนายจ้างก็ไม่มีเงินจ่ายให้ลูกจ้าง บริษัทใหญ่จะเดินทางในเชิงธุรกิจก็ไม่มีแรง รัฐต้องกระตุ้นให้บริษัทเหล่านี้เดินทางในเชิงธุรกิจ กระทรวงต่างๆ ก็ต้องมีการใช้จ่ายเชื่อมโยงการเข้าพักในรูปการประชุม รัฐควรต้องผลักดันในเงินของรัฐออกมา
กระตุ้นในส่วนนี้
ในไตรมาสที่ 3 ไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มีการกลับมาแน่ทั้งตลาดเอเชียและยุโรป น่าต้องขับเคลื่อนตลาดในประเทศกันเอง แต่หากไม่เร่งการเยียวยาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะซอฟต์โลนที่เงื่อนไขมากมายควรต้องทำให้เกิดรูปธรรม และเงินประกันที่ถูกเลิกจ้างรัฐยังจ่ายได้ไม่ถึง 10% เลย ขอย้ำว่า โรงแรมไม่ได้ถูกสั่งปิด แต่เราต้องปิดกิจการเพราะไม่มีคนมา ไม่มีคนพัก ไม่มีคนมาใช้บริการ จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายพนักงานจ่ายลูกจ้าง ดังนั้นไตรมาสที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม ก็ยังต้องลุ้นกันอีกที
ชัชวาล วงศ์จร
ประธานหอการค้า จ.นครราชสีมา
เจ้าของโรงแรมวีวัน โคราช
การระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ต เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายไปหมด และถูกมาตรการของรัฐบาล ที่มีคำสั่งปิดสถานประกอบการโรงแรมและรีสอร์ต รวมทั้งรัฐบาลก็มีคำสั่งไม่ให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ อาทิ งานประชุมสัมมนา งานจัดอีเวนต์ งานรื่นเริง รวมทั้งไม่ให้มีการเดินทาง เป็นต้น ดังนั้นกลุ่มธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต จึงได้รับผลกระทบ 100% มาเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา และโอกาสจะกลับฟื้นคืนมาสู่สภาวะปกตินั้นค่อนข้างยากมาก เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังอยู่อีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 5 เดือน และแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่ก็คาดว่าจะยังคงมีมาตรการเฝ้าระวังอีกมากมายตามมา กว่าจะมีลูกค้าเชื่อมั่นและเดินทางมาจองห้องพักบ้าง ก็น่าจะถึงปลายปีนี้ ระยะเวลายาวนานเช่นนี้ จะทำให้ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต ต้องปิดกิจการลงไปเป็นจำนวนมากแน่นอน จากการประเมินผลกระทบจากการปิดโรงแรมเพียงแค่ 3 เดือนนี้ เบื้องต้นในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก็มีธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต ประสบกับปัญหาขาดทุนจนต้องปิดกิจการถาวรไปแล้วประมาณ 15% ดังจะเห็นว่ามีการประกาศขายโรงแรมรีสอร์ตกันเป็นจำนวนมาก ส่วนที่เหลืออยู่นั้นก็ปิดกิจการชั่วคราวเป็นส่วนใหญ่ และยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการลูกค้าได้อีกเมื่อไหร่ มีความหวังอยู่กับรัฐบาลว่าจะสามารถช่วยเหลือเยียวยาอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะการเจรจาขอความช่วยเหลือจากธนาคารต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญมาก
ส่วนมาตรการของรัฐที่มีแนวโน้มว่าในเดือนมิถุนายนนี้ จะสามารถผ่อนปรนให้โรงแรม รีสอร์ต กลับมาเปิดบริการได้นั้น จากการดูสภาพในตอนนี้ โรงแรมต่างๆ ยังไม่มีความพร้อมจะกลับมาเปิดได้ตามปกติ เพราะจากการปิดให้บริการมา 3 เดือน ประสบกับภาวะขาดทุนเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ ก็ต้องได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ และสถาบันการเงินก่อน ถึงจะสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ โดยเฉพาะโรงแรมวีวัน ตนเป็นเจ้าของนั้น ตอนนี้ประสบกับปัญหาลูกค้าบอกเลิกการจองห้องพักไปเกือบ 100% ขณะที่แผนการดำเนินงานได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว เรายกเลิกไม่ได้ ก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ทั้งค่าจ้างพนักงาน และการดูแลรักษาห้องพักต่อเนื่อง ทางโรงแรมประสบกับปัญหานี้มายาวนานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และถ้านับถึงเดือนมิถุนายน รัฐบาลจะอนุญาตให้เปิดได้ ก็เป็นระยะเวลา 5 เดือน ทางโรงแรมวีวันประสบกับภาวะขาดทุนมหาศาล ดังนั้นยอมรับว่าโรงแรมวีวัน ไม่มีความพร้อมเปิดให้บริการในเดือนมิถุนายนนี้แน่นอน เพราะจะต้องเริ่มสตาร์ตใหม่เกือบทุกอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า อย่างน้อยคาดว่าน่าจะถึงสิ้นปี 2563 นี้ จึงจะมีลูกค้ากลับคืนมาบ้าง ประมาณ 30-50%
ในฐานะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม และเป็นประธานหอการค้า จ.นครราชสีมาด้วย จึงเตรียมยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทำการสำรวจธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ 100% โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจโรงแรม และรีสอร์ต เนื่องจากประเทศไทยมีรายได้หลักมาจากธุรกิจการท่องเที่ยว หากรายได้ส่วนนี้หายไป ถือว่าเสียหายมหาศาลมาก ดังนั้นรัฐบาลและสถาบันการเงินต่างๆ ต้องเข้ามาช่วยเหลือให้ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งให้ได้โดยเร็ว
