ปารีณาแจ้งความเอาผิดธนาธร-คณะก้าวหน้า โพสต์เฟซปลุกคนขับไล่รัฐบาล (คลิป)
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กของคณะก้าวหน้า ซึ่งนำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ว่า “หนังม้วนเดิมที่ตอนจบจะต้องไม่เป็นแบบเดิม” เมื่อเปรียบเทียบการรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 กับการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นั้น มีลักษณะการสืบทอดอำนาจโดยใช้วิธีการคล้ายคลึงกันอยู่หลายประการ เช่น :
1.ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย เอื้อให้มีการสืบทอดอำนาจได้โดยง่าย เช่น การไม่กำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง การให้ ส.ว.มาจากการสรรหาจากคณะรัฐประหาร และให้อำนาจ ส.ว.สูงมาก เช่น การให้ ส.ว.มีอำนาจร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับหลังการรัฐประหารทั้งสองครั้งนั้น ต่างร่างโดยคนเดียวกัน ชื่อ “มีชัย ฤชุพันธุ์”
2.มีการตั้งพรรคการเมืองที่มุ่งสืบทอดอำนาจให้คณะรัฐประหาร มีการใช้อำนาจทั้งทางกฎหมายและอำนาจปืนในการข่มขู่คุกคามกดดันให้ ส.ส. และนักการเมืองย้ายเข้ามาสังกัดพรรคตนเอง เพื่อให้ลงเลือกตั้งและจะได้ ส.ส.เป็นจำนวนมาก แล้วค่อยโหวตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนายทหารในคณะรัฐประหาร และไม่ได้ลงเลือกตั้ง โดยในการเลือกตั้ง 22 มีนาคม 2535 มีพรรคสามัคคีธรรม ส่วนในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ก็มีพรรคพลังประชารัฐ
3.ที่สำคัญที่สุด การรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารนั้น สำเร็จลุล่วงไปได้ ก็เพราะมีนักการเมืองและพรรคการเมือง ร่วมเป็นนั่งร้านให้เผด็จการ เพียงเพราะต้องการได้อำนาจและผลประโยชน์ ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ มองว่า เป็นการยุยงปลุกปั่นให้คนไทยลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาล จึงได้นำข้อความดังกล่าวมาแจ้งความเอาผิดกับคณะก้าวหน้า ในข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ในระบบคอมพิวเตอร์ และหลังจากนี้ไปก็จะตามติดคณะก้าวหน้าไปตลอด เพราะว่าข้อมูลต่างๆ ที่พยายามนำเสนอให้กับประชาชน ในขณะที่ประเทศชาติกำลังแก้ปัญหาไวรัสโควิดอยู่ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เวลาที่มาบิดเบือนข้อมูล ใส่ร้ายรัฐบาลที่กำลังทำงานหนักมาก เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด และพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ และพยายามเยียวยาให้กับประชาชน
โดยได้แจ้งความกับ ร.ต.ท.พชรพล เผ่าสำราญ พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะก้าวหน้าและจะติดตามคดีให้ถึงที่สุดด้วย