“ศักดิ์สยาม” ลุ้น 1ปีบินไทยพ้นแผนฟื้นฟู ชี้ปี’58 นายกฯ เคยช่วย-ถ้าทำตามแผนคงไม่เกิดเหตุการณ์นี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้พิจารณาการแก้ไขปัญหาบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) โดยมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) คือ 1.ไม่ขัดข้องที่กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการบินไทย โดยให้การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 และให้การบินไทยหลุดพ้นจากาการเป็นรัฐวิสาหกิจเด็ดขาด ทั้งนี้ให้กระทรวงคมนาคมนำเสนอความเห็นของของกระทรวงการคลัง และคนร.ให้ครม.พิจารณา และ 2.เห็นชอบกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง ในการบินไทย ให้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ซึ่งจะทำให้การบินไทยหลุดพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ
“สาเหตุที่กระทรวงคมนาคมที่เสนอให้พิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากบินไทยมีปัญหาประกอบกิจการ โดยสถานะการเงินของการบินไทยในปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2562 มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ทั้งสิ้น 147,352 ล้านบาท ยังไม่รวมหนี้สินปี 2563 ที่การบินไทยคาดว่าถ้าการดำเนินงานของการบินไทยได้รับผลกระทบโวคิ-19 จะส่งผลให้ปี 2563 มีภาระหนี้สินมากกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเห็นว่าสถานะการเงินของการบินไทยอยู่ในขั้นวิกฤต จึงต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหา เพราะตอนนี้อยู่ในสถานะหนี้สินล้นพ้นตัว ดังนั้นกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังจึงได้พิจารณาร่วมกัน”นายศักดิ์สยามกล่าว
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระทรงคลังได้พิจารณาแนวทางเข้าไปช่วยเหลือการบินไทย โดยการเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงคมนาคมก็เห็นด้วย แต่ขอให้บินไทยจัดทำแผนฟื้นฟูที่เป็นแอคชั่นแพลนเสนอมาเพื่อประกอบการพิจารณาก่อน เพราะจากแผนที่บินไทยทำมา กระทรวงคมนาคมได้เห็นสิ่งที่เป็นความเสี่ยงถึง 23 ความเสี่ยง ซึ่งตรงนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาว่าหากเห็นชอบแผนดังกล่าวก็ไม่สามารถปฏิบัติได้ จะทำให้รัฐบาลสูญเสียเงิน 5 หมื่นล้านบาท และจะมีปัญหาต่อไปว่าการค้ำประกันเงินกู้แบบนี้ ต่อไปไม่สามารถแปลงไปสู่การปฏิบัติได้ รัฐบาลก็ต้องใส่เงินเข้าไปอีก ก็จะเกิดความเสียหายกับการฟื้นฟูการบินไทย และเสียหายต่องบประมาณด้วย กระทรวงคมนาคมจึงได้ขอให้ทบทวนมติ คนร.
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ทั้งนี้กรณีที่รัฐบาลไม่ดำเนินการอะไรเลย ปล่อยให้การบินไทยล้มละลาย ซึ่งจริงๆจากข้อมูลสถานการเงิน การบินไทยมีโอกาสเป็นแบบนั้นได้ ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่เป็นผลดีต่อการบินไทย และมีสิ่งตามมา คือ ทำให้การบินไทยถูกพิทักษ์ทรัพย์และหยุดดำเนินงาน ก็จะทำให้ทรัพย์สินบินไทยถูกยึดและถูกอายัดทรัพย์สิน ขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ จะให้พนักงานตกงาน ถูกอยแพ กระทบผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ด้วย ซึ่งแนวทางนี้กระทรวงคมนาคมก็เสนอไปด้วย
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า สำหรับแนวทางที่กระทรวงเสนอให้ดำเนินการ คือ แนวทางที่ 3 คือ การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูตามคำสั่งศาลอีกที แนวทางฟื้นฟูไม่ใช่ล้มละลาย คือ 1.ขอให้ ครม.เห็นชอบในการให้การบินไทยเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ภายใต้ศาลล้มละลาย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้กระทรวงการคลังลดการถือหุ้นของการบินไทย ตามมติ ครม.ลดลงน้อยกว่า 50% เพื่อให้หลุดพ้นการเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้คล่องตัวในการยื่นแผนฟื้นฟูต่อศาลล้มละลาย โดยต่อไปการบินไทยจะต้องเข้าไปทำเรื่องคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและเสนอตัวเองเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูต่อศาล และจะต้องตั้งคณะทำงานเจรจากับเจ้าหนี้ และมีการตรวจสอบบัญชีลูกหนี้ว่ามีลูกหนี้อย่างไรบ้าง
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากศาลรับคำร้อง การบินไทยจะได้รับความคุ้มครองตามาตราที่ 90/12 จะเป็นสภาวะพักชำระหนี้ ก็เป็นเรื่องที่ให้สามารถหยุดจำนวนหนี้และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นต่างๆได้ หลังจากนั้นก็จะเจรจาเจ้าหนี้ทั้งนอกประเทศและในประเทศให้เจ้าหนี้เห็นว่าแผนฟื้นฟูที่การบินไทยทำสามารถกลับมาให้การบินไทยสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งศาลจะนัดวันไต่สวนอีกที อย่างไรก็ตามการยื่นต่อศาลในครั้งนี้ นอกจากศาลไทยแล้ว ยังต้องยื่นศาลที่สหรัฐอเมริกาด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีหนี้สินต่างประเทศอยู่ประมาณ 35% จากการเช่าซื้อเครื่องบิน
“นายกฯได้มอบกระทรวงคมนาคมพิจารณาจัดทำแผนฟื้นฟู ตอนนี้ก็พิจารณาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถก็นำรายชื่อเสนอนายกฯพิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 15 คน เพื่อให้นายกพิจารณา ก่อนเสนอศาลพิจารณา หากศาลเห็นชอบจัดตั้งผู้ทำแผน ผู้ทำแผนก็จะเข้าควบคุมกิจการที่จะทำแผนฟื้นฟูกิจการ ประชุมเจ้าหนี้เพื่ออนุมัติแผนฟื้นฟู และปรับปรุงแผนหากเจ้าหนี้ไม่เห็นด้วย หากเห็นด้วยก็ก็ยื่นศาลพิจารณาเห็นชอบ และแต่งตั้งผู้บริหารแผน
ดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ซึ่งตามกรอบเวลาแล้ว ในสัปดาห์นี้น่าจะได้รายชื่อ ก็รอนายกพิจารณาว่าเห็นชอบหรือไม่ ก็ยืนยันว่าต้องผู้ที่ทำงานได้จริงปราศจากแทรกแซง โดยคาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายใน 1 ปี หากไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด”นายศักดิ์สยามกล่าวและว่า การบินไทยถึงเวลาเอ็กซเรย์ว่ามีอะไรที่ทำให้ต้นทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร กระทรวงคมนาคมก็จะเข้าไปดูเรื่องนี้ ก็ไปไล่ดูว่าไปทำอะไรถึงเกิดปัญหา โดยนายกฯเคยช่วยในปี 2558 ถ้าบินไทยทำตามแผนก็คงไม่เกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อเกิดก็หันหน้าทำการฟื้นฟูให้แข็งแรงอีกครั้ง
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เบื้องต้นต้องคัดเลือกคนมาจัดทำแผนก่อน ดูบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กฎหมาย ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันไป ปัจจุบันยังเป็นรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังลดสัดส่วนลงมากว่า 50% เมื่อไหร่ ก็จะหลุดพ้นรัฐวิสาหกิจ จากนั้นก็จะพิจารณาแต่งตั้งผู้บริหาร บอร์ด ปรับโครงการสร้างต่างๆได้หมด เพราะปัจจุบันถูกปิดล็อกไว้หมด โดยคาดว่าแผนฟื้นฟูจะเสร็จก่อนมิถุนายนนี้
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เรื่องพนักงานก็ต้องพูดคุยสหภาพการบินไทย เพื่อหาทางออก โดยต้องพิจาณาจากสถานการณ์จริง ปฏิบัติได้ เพื่อไมให้กระทบพนักงาน 2 หมื่นคน แต่จะทำอย่างไรก็ต้องพิจารณา โดยขณะนี้ไม่เฉพาะบินไทยที่มีปัญหา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ก็มีปัญหา กระทรวงคมนาคมเสนอแผนไป คนร.แล้ว อยู่ระหว่างรอพิจารณา เมื่อพิจารณาเรียบร้อยก็ฟื้นจากขาดทุนใน 7 ปีหลัง ครม.อนุมัติ ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)ก็กำลังดำเนินการเช่นเดียวกัน
