ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) นั้น อยากให้รัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร ในส่วนภาคเอกชนมีจุดยืนอยากให้ไทยเข้าเจรจาซีพีทีพีพี ส่วนที่ติดขัดอะไรก็อยากให้ทุกฝ่ายมาหารือกันและควรศึกษาความเป็นไปได้ ข้อดีข้อเสีย และชี้ชัดภายใน 1 เดือนให้จบ เพราะหากจะเข้าเจรจาและยื่นความจำนงค์ต่อกลุ่มสมาชิกซีพีทีพีพีไม่ทัน ที่เขาเปิดพิจารณาเดือนสิงหาคมนี้ จะทำให้ไทยเสียโอกาสและล่าช้าไปอีก 1 ปีกว่ากลุ่มสมาชิกซีพีทีพีพีจะเปิดพิจารณารอบใหม่
“ไม่ใช่ว่าเราจะเข้าเลย แต่เป็นการยื่นเรื่องขอเข้าไปเจรจา อะไรที่เป็นปัญหา เสียเปรียบ ก็ทบทวนหรือไม่เข้าก็ได้ แต่อยากให้เปิดโอกาสได้เจรจาก่อน เพราะหลายประเทศคู่แข่งก็จ่อเข้าเจรจาหลายประเทศ ขั้นตอนและใช้เวลาอีกนาน ส่วนเรื่องที่ยังเสนอหรือไม่เสนอเข้าครม.เป็นเรื่องรัฐบาล เรื่องการเมือง ผมในฐานะเอกชนไม่ขอกล่าวถึง เพียงเราแสดงจุดยืนว่าการเจรจาระหว่างประเทศนั้น เป็นโอกาส อะไรที่เสียหายเราก็ไม่ทำ “ นายกลินท์ กล่าว
นายกลินท์ กล่าวถึงเรื่องการแบนสารอันตราย นั้น เป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลควรหาทางออกให้เกษตรกรในการใช้สารเคมีเพื่อการเกษตร ตอนนี้มีโควิดกระทบต่อการส่งออกและนำเข้า ก็ต้องดูในรอบด้านว่าจะกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตอาหารด้วย ก็กำลังรวบรวมและนำเสนอกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่อไป
