‘ดีป้า’ จับมือ ‘สรรพากร’ ลงนามสร้างบิ๊กดาต้าด้านภาษี หวังตอบโจทย์บริการปชช.
นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยในพิธีในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านภาษี ระหว่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และกรมสรรพากร ว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เป็นการลงนามแบบออนไลน์ผ่านโปรแกรมไมโครซอฟท์ทีม ซึ่งเป็นครั้งแรกของหน่วยงานราชการไทย เพื่อขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล และเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และเว้นระยะห่างทางสังคม (โซเชียล ดิสแทนซิ่ง)
นายณัฐพล กล่าวว่า ทั้งนี้ ตามภารกิจของดีป้า ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในทุกภาคส่วนให้สอดคล้องตามกันอย่างเป็นระบบ ทั้งในภาคเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนประชาชน ซึ่งในยุคดิจิทัลสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนก็คือข้อมูล สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (จีดีบีไอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดที่ดูแลด้านการพัฒนาบุคลากรและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) จะเป็นผู้ดำเนินการหลักในการพัฒนาบุคลากรร่วมกับกรมสรรพากรในครั้งนี้ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศควบคู่กับการเตรียมพร้อมบุคลากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยการต่อยอดทักษะเดิม หรือ เสริมเป็นทักษะใหม่ เพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลได้โดยมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด
“ดีป้าก็มีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ให้ความร่วมมือเพื่อที่จะพัฒนาบุคลากรด้านวิเคราะห์ข้อมูลและระบบธุรกิจอัจฉริยะ ตลอดจนการร่วมกันจัดทำโมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพยากรณ์สำหรับใช้ในการยกระดับบริการภาครัฐเพื่อประชาชนที่ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายณัฐพล กล่าว
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ความร่วมมือกับดีป้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการให้บริการกับผู้เสียภาษีและประชาชนให้ตรงกลุ่ม ตรงใจ และสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกลยุทธ์ของกรมสรรพากร ที่มุ่งพัฒนาฐานข้อมูล ขนาดใหญ่และวิเคราะห์ข้อมูลด้านภาษี ประกอบด้วย 1.การนำข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ ของผู้เสียภาษีและประชาชน จากที่รวบรวมได้หลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เสียภาษี และนำผลที่ได้มาออกแบบนโยบายภาษีให้ตรงกลุ่ม และบริการภาษีให้ตรงใจผู้เสียภาษี
2.การวิเคราะห์และประมวลข้อมูลทางภาษีต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในเชิงวิชาการ เช่น การคำนวณแบบจำลอง การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษี หรือแบบจำลองการประมาณการเก็บภาษีต่าง ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ การลงนามครั้งนี้ ยังเป็นการร่วมมือพัฒนาบุคลากรของกรมสรรพากร ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งจะสนับสนุนให้บุคลากรของกรมสรรพากรมีทักษะความรู้ความสามารถสอดคล้องกับทักษะในอนาคต
“กรมสรรพากรขอขอบคุณสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่เห็นถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการดำเนินงานในครั้งนี้ และเพื่อสนับสนุนการเว้นระยะห่างทางสังคม ลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) การลงนามครั้งนี้จึงเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงแบบออนไลน์ครั้งแรกของหน่วยงานราชการไทย” นายเอกนิติ กล่าว