รมว.อว.ปลื้ม ยุวชนอาสาดัน จีดีพี กาฬสินธุ์ จากอันดับ 75 มาเป็น 68 มอบทุน ขยายผล “กาฬสินธุ์โมเดล”

รมว.อว.ปลื้ม ยุวชนอาสาดัน จีดีพี กาฬสินธุ์ จากอันดับ 75 มาเป็น 68 มอบทุน ขยายผล “กาฬสินธุ์โมเดล”

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่เพื่อรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการยุวชนอาสา เฟส 1 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง โดยในงานได้มีการคัดเลือกผลงานของนักศึกษาจาก 83 โครงการที่นักศึกษาทำร่วมกับชุมชนและชาวบ้านมาต่อยอดทางธุรกิจ ปรากฏว่า มี 5 โครงการที่ได้รับสิทธิ์และทุนเข้าร่วมโครงการพัฒนาแนวคิดเพื่อสร้างรูปแบบธุรกิจนวัตกรรมมูลค่า 1 แสนบาทจากกองทุนยุวสตาร์ทอัพ ได้แก่ 1. โครงการการเพิ่มประสิทธิภาพระบบเติมอาอาศในบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ จากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ 2. โครงการพริกพีค จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 3.โครงการการใช้เทคโนโลยีการอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 4. โครงการอีซี่ ทริป จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม และ 5. โครงการการวางแผนธุรกิจระบบเกษตรอัจฉริยะ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า พอใจในผลการดำเนินงานโครงการยุวชนอาสา เฟส 1 โดยนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์บอกว่า โครงการยุวชนอาสาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมใน จ.กาฬสินธุ์ ดีขึ้น ขยับจากอันดับ 75 มาอยู่อันดับที่ 68 ของประเทศ ถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย ที่สำคัญนักศึกษายังโอกาสต่อยอดทางธุรกิจผ่านกองทุนยุวสตาร์ทอัพ โดย อว.จะนำกาฬสินธุ์โมเดลไปขยายผลทั่วประเทศ ผ่านโครงการเงินกู้ 4 แสนล้าน ที่ อว.เสนอของบประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาจ้างงานผ่านโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย โดยจะมีการจ้างงานบัณฑิตที่เพิ่งจบการศึกษา บัณฑิตที่ตกค้าง รวมทั้งคนที่ต้องการเปลี่ยนงานมาทำงานกับชุมชนกว่า 7,000 ตำบลทั่วประเทศจำนวน 2 แสนคน ระยะเวลา 1 ปี ได้เงินเดือน 15,000 บาท และจ้างนักศึกษาระดับปี 3-4 จำนวน 1 แสนคน ลงไปทำงานกับชุมชนในระยะเวลา 1 ปีเช่นกัน โดยคาดว่าโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัยจะเริ่มได้ในเดือน กันยายน นี้

“รู้สึกภูมิใจและดีใจกับนักศึกษาที่ได้เห็นปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้าน และนำความรู้ของตัวเองไปเป็นประโยชน์ การทำงานร่วมกันกับเพื่อนๆ ทำงานเป็นทีม ทำงานข้ามศาสตร์ ทำงานกับชาวบ้าน ได้เรียนรู้จากการลงมือทำเอง มีงานที่ท้าทายไม่เคยทำมาก่อน พร้อมปรับตัวหลังเกิดโควิด-19 เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ต้องกล้าคิด กล้าฝัน กล้าล้ม กล้าลุก ไม่หยุดคิด ไม่หยุดฝัน “กัดไม่ปล่อย” และสร้างสรรค์เพื่ออนาคต เป็น Future Changer ได้อย่างแท้จริง” นายสุวิทย์ กล่าว

Advertisement

 

 

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image