วิจัยกรุงศรี คาดศก.ไทยฟื้นแบบตัวยู อีก2ปีครึ่งฟื้นเท่าก่อนโควิดระบาด ชี้อุตฯ26ประเภทถูกกระทบหนัก

ดร.สมประวิณ มันประเสิรฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยวิจัยกรุงศรีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยติดลบ 5% ปี 2563 โดยมีความเป็นไปได้มากที่เศรษฐกิจจะค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ และภาคธุรกิจต่างๆจะเริ่มปรับตัวรับเทรนด์ใหม่ๆชัดเจนมากขึ้นในปี 2564

ดร.สมประวิณ กล่าวว่า ผลกระทบของโควิด-19 ไม่เพียงส่งผลต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงนี้ แต่ยังส่งผลในระยะปานกลางและระยะยาวจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ การปิดการดำเนินงานของภาคธุรกิจจากมาตรการล็อกดาวน์ การปรับตัวลดลงของอุปสงค์โดยรวม การชะงักงันของระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ปัจจัยทั้ง 4 จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์จะมีการหดตัวมากในช่วงนี้ แต่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นโดยเปรียบเทียบ
” ขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคจะใช้เวลายาวนานกว่าในการปรับตัว มาตรการช่วยเหลือในด้านต่างๆ และวิธีการปรับตัวของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในแต่ละกลุ่มจึงควรมีรูปแบบที่แตกต่างกันตามลักษณะการฟื้นตัวของธุรกิจ ”

ดร.สมประวิณ กล่าวว่า วิจัยกรุงศรี ได้วิเคราะห์ผลกระทบของโควิด-19 ที่มีต่อภาคอุตสาหกรรม พบว่า ภาคธุรกิจ 26 ประเภทจาก 60 ประเภท หรือคิดเป็น 46% ของผลผลิตทั้งหมด ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ธุรกิจ 24 ประเภทหรือคิดเป็น 43.1% ของผลผลิตทั้งหมด ได้รับผลกระทบปานกลาง และมีภาคธุรกิจเพียง 10 ประเภท หรือ คิดเป็น 10.9% ของผลผลิตทั้งหมด ได้รับผลกระทบจากโควิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

วิจัยกรุงศรีมองว่า ธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจด้านการผลิตอาหารมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้ในปี 2564 ขณะที่ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง พลังงานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ จะได้รับผลกระทบอย่างหนักแต่จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าภาคธุรกิจอื่นๆ ส่วนภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ อาทิ การขนส่งทางอากาศ และอุตสาหกรรมการบริการ จะใช้เวลาฟื้นตัวยาวนานกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสทางกายหรือการรวมตัวกันในที่สาธารณะ จะใช้เวลาในการฟื้นตัวยาวนานกว่ากลุ่มอื่นๆ เช่นกัน

Advertisement

“ภาพรวม อุตสาหกรรมเกือบทุกกลุ่มจะไม่สามารถฟื้นตัวไปอยู่ที่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้ในปี 2564 แม้ว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพในการจัดการด้านระบบสาธารณสุขได้เป็นอย่างดีและทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกยังได้รับผลกระทบอย่างหนักและเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะแตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 2 แต่การถดถอยของเศรษฐกิจโลกจะส่งผลต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงปีหน้า ”

ดร.สมประวิณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย คาดว่าเม็ดเงินจากมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจะเข้าสู่ระบบมากขึ้นช่วงไตรมาส3 ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ แต่ยังต้องติดตามความชัดเจนของมาตรการต่างๆในเรื่องประสิทธิภาพการฟื้นฟูเศรษฐกิจว่าจะสามารถทำให้เกิดการจ้างงานเพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบ ช่วยหนุนภาคครัวเรือนให้มีรายได้เพียงพอต่อการชำระหนี้ ลดความเสี่ยงแก่ภาคการเงิน และมีมาตรการที่เหมาะกับรูปแบบการฟื้นตัวในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมมากเพียงใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image