ผชช.นิติเวชเผยคดี”น้องชมพู่”ปิดไม่ลง มีโอกาสพักคดี-“พระมหาสมปอง”ติง”หลวงปู่เดือนชัย”อวดอุตริ

ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชลั่นคดี “น้องชมพู่” ปิดไม่ลง อาจมีโอกาสพักคดี! “พระมหาสมปอง” ติง “หลวงปู่เดือนชัย” อวดอุตริ – ไร้สาระ สมควรถูกคณะสงฆ์ไล่ออกนอกพื้นที่

 รายการโหนกระแสวันที่ 19 มิถุนายน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เปิดใจสัมภาษณ์ “รศ.นพ. วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. และ “พระมหาสมปอง ตาลปุตุโต” กรณีคดี “น้องชมพู่” ที่ผ่านมาเดือนกว่าแล้วแต่ยังปิดคดีไม่ลง ถึงตอนนี้ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีกรณี “หลวงปู่เดือนชัย” ที่เข้ามาพัวพัน จนทำให้คณะสงฆ์มุกดาหาร ต้องเชิญออกนอกพื้นที่

หลังจากที่วันนั้นมีการพูดคุยกัน ลุงพลนั่งอยู่ด้วย มีการประเมินต่างๆ นานา หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ 30 กว่าวัน มองยังไง?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “จริง ๆ ณ วันนี้ต้องชัดเจนว่าการผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 ยังไม่มีการรายงานให้ทราบ  ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อยากย้อนกลับมากรณีที่เคยคุยกันครั้งที่แล้วว่า กรณีการเสียชีวิต ถ้ามีบาดแผลชัดเจนก็จะเป็นการถูกผู้อื่นกระทำให้เสียชีวิต แต่ถ้ากรณีบาดแผลมีเล็กน้อยแต่ไม่ชัดเจนว่าทำให้เสียชีวิต อาจพบว่าการตายอาจเป็นอย่างอื่น อย่างกรณีบอกว่าขาดน้ำ อะไรต่างๆ แต่ก็ทำให้เกิดคำถามว่าการที่เด็กจะขึ้นไป 2 กิโลเมตรกว่า ไต่เขาไปถึงจุดนั้นตรง ถอดเสื้อได้อย่างไร หลังๆ มีข่าวว่าเส้นผมน้องหายไปบางส่วน ก็เกิดคำถามว่ากรณีอย่างนี้เกิดขึ้นได้หรือไม่ เลยเอามาสรุปรวมความว่าในความเป็นจริงแล้ว ณ ปัจจุบันที่ตำรวจเดินต่ออีก 38 วันเพราะส่วนหนึ่งคงเชื่อว่าการเสียชีวิตครั้งนี้น่าจะมีผู้อื่นกระทำ ไม่ว่าจะกระทำโดยตรงหรือกระทำโดยอ้อมก็ดี คือพาไปจุดที่เด็กไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้เกิดการเสียชีวิตตามมา”

Advertisement

“แต่ประเด็นปัญหา ณ ปัจจุบัน ยิ่งคดีเป็นที่สนใจต่อสังคม การต่อสู้ในชั้นศาล การเก็บรวบรวมพยานไปใช้ส่งอัยการคิดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หลายท่านก็เริ่มมีคำถามจะมีแพะมั้ย การทำงานตร.จึงต้องเชื่อมโยงมากๆ เรื่องของวัตถุพยานที่จะไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ส่วนตัวผมคิดว่าโอกาสยากที่เด็กจะขึ้นไปเอง ประกอบกับเด็กไม่น่าจะถอดถอดเสื้อผ้าแบบที่ว่าได้ ถ้าถอดเองจะถอดไว้ที่ไหน ต้องอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ที่สามารถติดตามได้”

เสื้อน้องที่เป็นหลักฐานสำคัญหาไม่เจอ?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “นี่แหละครับ มันหายไปไหน”

Advertisement

สองประเด็นที่คุย มุมนึงบอกว่าไม่เจอคนเห็นเหตุการณ์ว่าใครพาน้องไป ไม่มีข้อมูลอื่นดีเอ็นเอต่างๆ นานา น้องอาจเดินขึ้นไปเองได้ แต่มุมอาจารย์ไม่เชื่อว่าจะเดินขึ้นไปเอง?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ส่วนตัวผมให้น้ำหนักน้องไม่น่าขึ้นไปเองได้ แต่ถามว่า ณ วันนี้เป็นไปได้มั้ย ก็เป็นไปได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้น้อย ถามว่าทำไมถึงมองว่าน้องขึ้นไปเองไม่ได้ พื้นที่ในการขึ้นไปก็ส่วนนึง อีกส่วนคือเสื้อผ้าถ้าน้องถอดเองต้องหาเจอสิคร้บ ทำไมหาไม่เจอ แสดงว่าต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเอาเสื้อไปไว้ที่ใดที่หนึ่ง ถ้าถอดเองก็น่าจะอยู่บริเวณนั้น ขณะเดียวกัน เราพบว่ามีการตัดเส้นผมน้อง คำถามคือน้องจะตัดเองได้อย่างไร มีอุปกรณ์ยังไง พวกนี้ผมได้ข้อมูลตามสื่อว่ามีการตัด ก็ว่ากันไป วันนี้ตร.จึงต้องหาพยานหลักฐานอยู่ถึง 38 วัน”

 

38 วันสำหรับนิติเวช นานไปมั้ย?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ต้องเรียนว่าหลักฐานมันจางไปตามกาลเวล วันแรกหลักฐานสำคัญมาก ถ้าเก็บได้ในวันแรกสำคัญมาก เก็บได้ก็จะดี แต่ตอนนี้เก็บหลักฐานเพิ่มค่อนข้างยาก ยิ่งนานวันไปก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้จึงเป็นลักษณะการสืบสวนสอบสวน ที่นอกเหนือจากนิติวิทยาศาสตร์ แต่เอาหลักฐานที่เก็บได้วันแรกๆ มาผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทางห้องปฏิบัติการเพื่อจะบอกผล ซึ่งก็รอกันอยู่ ทุกวันนี้จะไปเก็บหลักฐาน ฝนก็ตกแล้ว โอกาสเก็บหลักฐานใหม่ๆ เป็นไปได้ยาก ถามว่านาน นานเรื่องรอผล ห้องปฏิบัติการ การสรุป แต่การสอบสวนสืบสวนที่ตร.ทำต่อเนื่อง”

 

ตร.กำลังตรวจสอบ พบขนสุนัขที่เจอที่ตัวน้อง วันกอนตร.ได้เก็บขนสุนัขที่บ้านลุงพล?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ดีเอ็นเอนี้ตรวจได้ตั้งแต่ขนสัตว์ พืช ตรวจได้หมด อย่างคดีดังๆ ตรวจจากพื้นรองเท้าก็พบว่ามีดีเอ็นเอของพืชชนิดนึง ซึ่งมันตรงกับพื้นที่ตรงนี้ อันนี้เป็นการตรวจเชื่อมโยง นั่นแสดงว่ามีการตรวจพบเส้นขนสุนัขตัวศพ และต้องการหาเปรียบเทียบ ถามว่าทำได้หรือไม่ ทำได้อยู่แล้วเป็นการตรวจเชื่อมโยงว่าเป็นเส้นขนเดียวกัน ดีเอ็นเอเดียวกันหรือไม่”

 

เรื่องน้องเดินขึ้นเขาเองได้หรือเปล่า ไม่มีใครเห็น ไม่มีประจักษ์พยานว่ามีใครพาน้องขึ้นไป ตร.กำลังมองว่าถ้าเอาน้องใส่กระสอบแล้วพาขึ้นไป?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ผมว่าเป็นไปได้หมด ต้องเรียนว่าตอนนี้ปิดช่องอะไรไม่ได้เลย อย่างที่เคยเรียนว่าเด็กจะขึ้นไปเองได้ก็ลำบาก คนอื่นจะพาไปถ้าไม่ใช่คนรู้จัก ครอบครัวหรือคนรอบข้าง ชาวบ้านก็บอกว่าน้องคนนี้ยังไงถ้ามีคนพาไปน้องก็ต้องงอแง แต่กลายเป็นคนไม่ได้ยิน ก็อาจเป็นไปได้ว่าต้องเป็นคนที่ทำให้เขาไม่ร้อง อีกกรณีที่คณหนุ่มพูด กรณีนั้นอาจให้เขาอยู่ในกระสอบ มีอะไรบางอย่างทำให้ออกเสียงไม่ได้ อยู่ในกระสอบ คนมองไม่เห็น”

 

หรือเสียชีวิตไปแล้วจากข้างล่าง แล้วเอาไปทิ้งข้างบน?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ก็เป็นไปได้หมด ถ้าตรวจพบต้องรอหลักฐานการชันสูตรครั้งที่สอง เพราะครั้งแรกเขาสรุปมาแล้วว่าไม่มีอะไรชัดเจนเรื่องสาเหตุการตายต้องรอผลอย่างละเอียด ซึ่งเรื่องฮีสโตรก ผมตามข่าวตามสื่อต่างๆ ในข้อเท็จจริงไม่มีการออกรายงานเรื่องฮีสโตรก บอกว่าเป็นเรื่องระบบไหลเวียนหายใจล้มเหลว ซึ่งเป็นอะไรก็ได้”

 

เขาไม่ได้ประกาศว่าน้องฮีสโตรกเสียชีวิต?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ผมไล่ดูแล้วมันไม่มีการเขียนแบบนั้นชัดเจน เพียงแต่ว่าถ้าไปดูผลผ่าชันสูตร เป็นแค่ผลชันสูตรเบื้องต้น ซึ่งผ่าครั้งที่ 2 ต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้ครั้งแรกยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ ครั้งที่สองก็ยังไม่ออก”

 

ในใจมีมั้ยว่าใคร?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “จริงๆ ส่วนตัวผมเองก็มองตามข่าว  ก็คงเหมือนคนทั่วไป มีอยู่ในใจว่าคนนี้มีโอกาสเป็นไปได้ มีหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าดูสอดคล้องในบางเรื่อง ในบางประเด็น อันนีไม่ได้เกี่ยวกับนิติเวช นิติวิทยาศาสตร์ ส่วนตัวเลย เหมือนชาวบ้านดูทีวีติดตามข่าว ดูคนนั้นคนนี้พูด”

 

ถ้าดูจากหลักฐานหรือกายวิภาคที่เขาแสดงออกมา มีในใจมั้ย?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ถ้าเรื่องหลักฐาน ต้องเรียนว่าหลักฐานตอนนี้ที่ได้รับทราบข้อมูล เป็นเพียงการคาดเดา ว่าตร.เข้ามาเพราะมีเรื่องขนสุนัข มีเส้นขน ตรวจโน่นตรวจนี่ จริงๆ เราไม่รู้เลยจริงๆ ว่าหลักฐานที่ตร.มีอยู่ในมือมีอะไรบ้าง มันเป็นความลับจริงๆ ผมว่าตัวชาวบ้านหรือใครที่ออกมาพูด คิดว่าเป็นการคาดเดาหรือการตีความ หรือแสดงความเห็นบนพื้นฐานความเข้าใจของเขา ก็เลยทำให้ออกมาแล้วบางทีดูไม่สอดคล้อง”

 

เรื่องจอมอภินิหารทั้งหลาย ร่างทรง หมอผี พระ ที่ออกมาแสดงอภินิหารทั้งหลาย ปลดปล่อยวิญญาณน้อง น้องชมพู่มาบอกคนนี้ฆ่า เยอะแยะ ทำให้คดียิ่งยากมั้ย?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ผมเชื่อว่าถ้าตอนเริ่มต้นคดี เขาปูพรมเรียบร้อยหมดแล้ว เรื่องเก็บหลักฐานวัตถุพยาน เรื่องตรงนั้นคงไม่ได้รบกวนหรอกครับว่าจะมีหมอผี หมอดู หรือใคร คงไม่ได้รบกวนตรงนั้น กระบวนการที่รออยู่คือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แน่นอนกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตร. ผมเองกลับมองมุมชาวบ้านว่าเขารับรู้ และช่วยกดดันตร.ด้วยหรือเปล่า บางทีรับรู้จากตร.โดยตรงกับหมอดู หมอดูบอกอย่างนี้ๆ ตร.จะไม่ไปยุ่ง แต่ด้วยความชาวบ้านเขาฟัง ก็อาจจะทำไมตร.ไม่ฟังมุมนี้ดูบ้าง อาจถูกกระแสสังคม”

สิ่งที่หลวงปู่เดือนชัยทำ เอาเรื่องคนตายมาชี้นำ ในมุมพระได้มั้ย?

พระมหาสมปอง : “เอาความเห็นก่อนเลย ที่เห็นครั้งแรก ภาษาอีสานโผล่มาเลย โดนแล่วๆ โอกาสสุ่มเสี่ยงอวดอุตริสูงมาก พระพุทธเจ้าห้ามมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ความเห็นอาจารย์อะไรต่างๆ สุ่มเสี่ยงถูกลงโทษ ถ้าแรงถึงประหารชีวิตนะ อันตรายมาก”

 

ท่านเคยทำมั้ย หมุนๆ?

พระมหาสมปอง : “ลื่นเคยหมุนตัว แต่แบบนี้ไม่ทำ มันเป็นการกระทำสุ่มเสี่ยง ท่านส่ายหัวไปมา ถามว่าทำอะไร ไม่รู้เลยครับ มีช่วงนึงเขาบอกภาษาเทศน์ แต่มันเป็นภาษามั่วๆ ถ้าพูดตรงๆ ถ้าให้ฟันธงเราพูดตั้งแต่แรกๆ ก่อนมีข่าวว่าท่านถูกนิมนต์ออกนอกพื้นที่ แต่ท่านออกตัวตั้งแต่แรกว่าท่านไม่ได้อยากดัง อยากมาช่วย แต่การทำแบบนี้สุ่มเสี่ยงมากๆ พระเราไม่เห็นด้วย อันนี้ออกแนวไสยศาสตร์ ถ้าพูดตรงๆ ดูไร้สาระมาก แต่เป็นแง่ความเชื่อ มันอาจเหมือนเป็นทางออกอีกทางเพื่อความสบายใจ แต่ก็สุ่มเสี่ยง ถ้าชี้ผิดคนไม่ได้ทำเขากลายเป็นแพะ ก็จะใช้ชีวิตลำบาก”

 

ในมุมพระมีแบบนี้ด้วยเหรอ?

พระมหาสมปอง : “ไม่มี อันนี้ออกแนวไสยศาสตร์ มันเป็นเดรัจฉานวิชา ทำให้คนงมงาย”

 

การที่คณะสงฆ์มกดาหารเชิญออกก็สมควร?

พระมหาสมปอง : “สมควรแล้ว การให้ออกถือว่าเบามาก ถ้าพิสูจน์ได้ว่าอุตรินี่ต้องสึก กลับมาบวชอีกก็ไม่ได้ จริงๆ พระทำให้คือให้กำลังใจ ให้ธรรมะข้อคิดได้ ชี้แนะแนวทางได้”

 

พอหลวงปู่เดือนชัยออกจากพื้นที่ มีรูปใหม่ออกมาอีกแล้ว บอกว่าเดี๋ยวจะจับคนร้ายได้ภายในไม่กี่วัน ท่านทำได้แบบนี้หรือเปล่า?

พระมหาสมปอง : “แหม อาตมาทายไม่ได้เลย สารภาพว่าไม่รู้เลย ตร.ยังไม่ทราบชัดเลยว่าเป็นใคร อย่างที่บอกอวดอุตริสุ่มเสี่ยงสูงมาก”

 

ตอนนี้สมมติคดีปิดไม่ลงจริงๆ มีโอกาสพักคดีมั้ย?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ผมว่ามีโอกาสเป็นไปได้ ถ้าพยานหลักฐานมันไม่ชัดเจน ณ วันนี้สังคมก็มองมุมนี้มาก การมองก็หลายอย่าง ต้องดำเนินการให้รัดกุม ถ้าไม่มีหลักฐานต้องพักคดี รอให้มีหลักฐานใหม่เพิ่มเติมในคดีได้และสามารถสาวถึงตัวผู้กระทำผิดได้ ก็น่าจะเอากลับมาใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ผมเข้าใจว่าอีกสักพักใหญ่ๆ เรื่องหลักฐานที่เรียนไปทีแรกว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เก็บแล้ว ตอนนี้เป็นขั้นตอนสอบสวนสืบสวน ต่อนี้ไปเป็นขั้นตอนการสรุปเอกสาร ไปดูหลักฐาน สรุปประมวลหลักฐานใหม่อีกครั้ง ส่วนเรื่องเส้นขน เส้นผม พอแยกกันไปตรวจดีเอ็นเอ เส้นผมต้องมีรากผม ไปตรวจดีเอ็นเอได้ ตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอน้องชมพู่ว่าตรงกันหรือไม่ ตรงกับใคร แต่ที่ฟังท่านพูด ดีเอ็นเอตรงกัน แต่เส้นขนแบบนี้ ไม่น่าจะใช่ของน้องชมพู่ ในความเป็นจริง ถ้าดีเอ็นเอตรงกัน อย่างไรก็ต้องเป็นของน้อง นี่คือข้อที่หนึ่ง นอกจากมีข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการตรวจอะไรบางอย่างซึ่งผมก็ไม่ทราบ ว่าขนนี้ไม่ควรเป็นของน้องชมพู่แต่กลายเป็นของน้องชมพู่ อันนั้นเราไม่ทราบจริงๆ”

 

เมื่อเช้าคุยกับท่านมาว่าสรุปสิ่งที่ท่านพูดคืออะไร ท่านบอกว่าเจตนาที่พูด เส้นผมเส้นนั้น หลังตร.เห็น และเอาไปตรวจดีเอ็นเอตอนแรก เจอดีเอ็นเอตรงกับน้องชมพู่ แต่พอดูอีกที มันไม่ใช่เส้นผม มันเหมือนขนเพชร ซึ่งไม่น่าเป็นของน้องชมพู่หรือเปล่า ก็เลยไปตรวจดูอีกทีว่าเส้นนี้เป็นของใคร ดีเอ็นเอเป็นของใคร ซึ่งไม่ใช่ของน้องชมพู่?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “กรณีนี้เป็นขั้นตอนกระบวนการที่ต้องตรวจสอบใหม่ ไม่งั้นคงชัดเจนไปแล้ว”

 

คิดว่าคดีนี้ยากตรงไหน?

รศ.นพ. วีระศักดิ์ : “ส่วนตัวผมยากแน่นอน เพราะมันไม่ได้เป็นเหมือนในเมืองที่มีกล้องวงจรปิดให้เราเห็นทั้งหมด มันเป็นพื้นที่ป่ากว้าง การติดตามทั้งหมดชาวบ้านเป็นร้อยในการช่วยเดินหา เริ่มต้นจากการหาตัวศพให้ได้ก่อน ก่อนมาหาหลักฐาน ซึ่งถูกเหยียบหรือโดนทำลายไปบางส่วนแล้ว หลักฐานจึงเก็บได้ยาก ขณะเดียวกัน ไม่มีประจักษ์พยาน ไม่มีตัวบุคคลที่จะมาบอกกล่าวอะไรได้เลย การสอบปากคำไปเรื่อยๆ มันจึงต้องหาประเด็นเชื่อมโยง ต้องใช้เวลา ซึ่งยากมากครับ”

อยากบอกอะไรพระที่อวดอุตริ?

พระมหาสมปอง : “พระเราก็ให้ศีลให้พร ให้กำลังใจญาติโยมดีกว่า นิติวิทยาศาสตร์เขายังไม่ชัดเลย เราก็อย่าไปอวดอุตริว่าเรารู้ในสิ่งที่คนอื่นก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ อย่าไปเลี้ยงชีพด้วยความไม่ถูกต้องจะเสียตัวเอง ฝากพระสงฆ์ช่วยกันดูแลตักเตือนปรับปรุงแก้ไข อย่าทำให้สังคมหลงทาง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image