‘ณัฏฐพล’ เชื่อ ร.ร.พร้อมเปิดเทอม 1 ก.ค. เผย ศธ.เตรียมแผนรับมือหากมีการระบาดระลอกสอง
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความพร้อมในการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 วันที่ 1 กรกฏาคม ว่า จากการที่ ศธ.ได้ขยายเวลาเปิดภาคเรียนประมาณ 45 วัน ทำให้โรงเรียนได้เห็น การเตรียมความพร้อมจากหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ ศธ.ได้ปรับตัวเอง ทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน และครู ได้นำมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาวางเป็นพื้นฐานและปรับไปตามบริบทพื้นที่ ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ต่างกัน โรงเรียนบางแห่งสามารถให้นักเรียนทุกคนมาเรียนในโรงเรียนได้ แต่ละมีโรงเรียนบางแห่งที่ต้องจัดตารางเรียนให้นักเรียนสลับเวลามาเรียน เช่น สลับเวลาเรียน สลับเรียนวันคู่ วันคี่ เป็นต้น ศธ.มีความยืดหยุ่นกับสถานศึกษา ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้ว่า ถ้า ศธ.ให้อำนาจโรงเรียนตัดสินใจในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา โรงเรียนก็สามารถบริหารจัดการได้
“เมื่อเจอสถานการณ์จริงในวันที่ 1 กรกฏาคม โรงเรียนปัญหาอาจจะมีบ้าง ก็ต้องแก้ไขกันไป แต่ผมมั่นใจว่าวันนี้ ศธ.มีความพร้อมเต็มที่ ที่จะทำให้การศึกษามีความต่อเนื่อง หลังจากวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ไป หากพบว่ามีการระบาดระลอกรอบสอง หรือระลอกรอบสาม การเรียนการสอนจะสามารถเดินต่อได้ เพราะเราเห็นแล้วว่า 45 วันที่ผ่านมา สถานศึกษา และครูมีความคล่องตัว และมีความยืดหยุ่นมากพอ”นายณัฏฐพล กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากครูที่ปรับตัวแล้ว ตนคิดว่าผู้ปกครองได้ปรับตัวอย่างมาก เพื่อรองรับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 วันนี้ตนเห็นแล้วว่าทุกคนในสังคมปรับตัวกันทุกคน เช่น ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยทั่วทั้งประเทศ เป็นต้น ตนหวังว่าในการสื่อสารระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองจะทำให้ ศธ.ได้รับฟังเสียงสะท้อน และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จะต้องมีการปรับตัว เข้าใจซึ่งกันและกันด้วย เพราะช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ ซึ่งตนหวังว่า ศธ.และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะทำให้ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดลงและหมดไปในที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลกับการแพร่ระบาดในเด็กหรือไม่ เพราะมีงานวิจัยพบว่าเมื่อเด็กติดเชื้อจะแสดงอาการน้อย นายณัฏฐพล กล่าวว่า ตนกังวลในระดับนึง แต่ที่ผ่านมาในประเทศไม่พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลานาน ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ ศธ.ยังไม่ไว้วางใจ และจะลดการ์ดไม่ได้ หากเราคุมเข้มเรื่องวินัย ปฏิบัติตัวตามมาตรการ สธ.กำหนด ตนเชื่อว่าจะลดความเสี่ยงได้มาก ถ้าหากมีปัญหาแต่ละโรงเรียนอาจจะต้องทำการจำกัดบริเวณในแต่ละชั้นเรียน และทำการเรียนการสอนทางออนแอร์ ออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งตนมั่นใจว่า ศธ.แก้ไขสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
