คืบหน้ามือดีจับภาพคนสนิทเจ้าอาวาส ใส่ผ้าถุงเดินในวัด โร่แจ้งความเอาผิด คนปล่อยภาพ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน จากรณีที่พระลูกวัด วัดศรีวิชัยวัฒนาราม วัดชื่อดังในตัวเมืองชัยนาท ได้นำภาพของนางมาด หรือ สมมาด ฉลาดธัญกิจ อายุ 65 ปี นุ่งผ้าถุงกระโจมอก เดินอยู่ภายในวัด โดยมีข้อความบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “วัดศรีวิชัยวัฒนาราม มีสีกานอนในวัด ทำตัวเหนือพระ(ใส่ผ้าถุงเดินในวัด) พระที่ไม่เคารพสีกา ต้องอยู่อย่างอัปยศ ใครจะช่วยได้บ้าง?ช่วยแชร์ด้วย” โดยบอกว่านางมาดมีความสนิทสนมกับพระครูสุทธิชยากร เจ้าอาวาสอายุ 86 ปี เป็นการส่วนตัว และห้องพักอยู่หลังกุฏิเจ้าอาวาส ที่อยู่ติดกัน โดยพระเณรในวัดสุดจะเอือมระอากับพฤติกรรมของนางมาดที่ทำตัวเป็นผู้จัดการวัด คอยจัดแจงเรื่องต่างๆ ภายในวัดแทนเจ้าอาวาส จนถูกสั่งให้ออกจากวัดไปเมื่อวานที่ผ่านมานั้น
จากข่าว
– พระสุดเอือม หญิงคนสนิทเจ้าอาวาสกินนอนในวัด กร่างขนาดเรียกชื่อพระไม่มีคำนำหน้า
– เจ้าอาวาสรับให้สีกากินนอนในวัดจริง ชราแล้วต้องมีคนดูแล จนท.ไกล่เกลี่ยให้พ้นวัดใน 24 ชม.
ล่าสุด นางสมมาด ฉลาดธัญกิจ เดินทางไปยัง สภ.เมืองชัยนาท เพื่อแจ้งความเอาผิดพระลูกวัดผู้เอาภาพไปโพสต์บนเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าทำให้ตนเองเสื่อมเสีย มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยนางสมมาดบอกว่า วันนี้มาแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองชัยนาท เรื่องที่ถูกพระลูกวัดหมิ่นประมาท โดยการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับความเสียหาย ทำให้โดนด่าจากคนบนโลกโซเชียล ทั้งๆ ที่ยังไม่ทราบความจริงว่าเป็นอย่างไร เรื่องราวทุกอย่างมันไม่เป็นความจริง และมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เรื่องที่สอง คือเรื่องที่สื่อลงข่าวไป ลงแค่ด้านเดียว ด้านที่พระลูกวัดโพสต์ แต่หากลงที่มาสัมภาษณ์ตนและคนในครบครัวก็ไม่มีอะไร อยากให้ลงทั้งสองด้าน เพราะตนเป็นคนที่ถูกด่าทอฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ไม่มีใจคิดอกุศลเลยสักครั้ง
ด้าน นางสาวศศิรัตน์ บุญพญา อายุ 44 ปี หลานของนางสมมาด เผยว่า อยากฝากไปถึงผู้เสพข่าวว่าควรศึกษาก่อนว่าอะไรเป็นจริงอะไรไม่จริง ไม่ใช่ว่าจ้องจะมาด่ากันอย่างเดียว เพราะคนถูกสังคมตีตรา ตราหน้ามันไม่สนุกเลย เพราะการถูกคนไม่รู้จักกันมาก่อนด่าทอนั้น บั่นทอนจิตใจอย่างมาก เห็นในคอมเมนต์ “ไล่มันออกไป” หรืออย่าง “สงสัยจะมีลูกกันแล้วมั้ง” มันแรงเกินไป สวนทางกับความเป็นจริง ที่พาป้ามาแจ้งความ เพราะอยากรักษาชื่อเสียงของวัด เจ้าอาวาส และจังหวัด คนที่ทำนั้นสำนึกหรือเปล่าว่า ผลที่ตามมามันหนักหนาแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม สังคมยังคงมีข้อคลางแคลงใจว่าการที่ผู้หญิงเข้าไปพักอาศัยอยู่กินภายในวัดเสมือนบ้านแบบนี้สามารถทำได้หรือไม่ และมีความเหมาะสมหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบมาก่อนหรือไม่ เพราะนางสมมาดอาศัยอยู่ในวัดแห่งนี้มาแล้วนับ 10 ปี แต่ไม่มีใครทักท้วง หรือดำเนินการเพื่อความเหมาะสม
