09.00 INDEX แนวต้าน “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยังคึกคัก เข้มข้น มิแปรเปลี่ยน
ถามว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยเป็นกรรมาธิการ”วิสามัญ”ของ สภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
ตอบได้เลยว่า เคยเป็นมาแล้ว
นั่นก็คือ เมื่อพรรคอนาคตใหม่เสนอให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
แม้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเป็นคำสั่งให้ยุดการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส.ก็ตาม
อย่าได้แปลกใจที่เมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกระทั่งยื่นใบลาออกเพื่อที่จะดำ เนินการเคลื่อนไหวภายในสภาได้อย่างเต็มที่ในกาลต่อมา
ไม่ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างฉันทามติในกรณีที่พรรคเสนอร่าง กฎหมายแก้ไขการเกณฑ์ทหาร ไม่ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อชี้ให้เห็นเงินที่อยู่”นอก”งบประมาณของกระทรวงกลาโหม
เมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สามารถเป็นได้ในงบประมาณ พ.ศ.2563 แล้วเหตุใดจะเป็นไม่ได้ในงบประมาณ พ.ศ.2564
ไม่ว่าการออกมาคัดค้านของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. ไม่ว่าการออกมาคัดค้านของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จึงเสมอเป็นเพียง”พิธีกรรม”ในทางการเมือง
ทุกอย่างจึงดำเนินไปอย่างที่ 2 พี่น้องนักการเมืองในตระกูล”ปริศนานันทกุล” แห่งจังหวัดอ่างทอง ยืนยัน
“สิ่งที่น่าละอายไม่ใช่การเสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ่งที่น่าละอายคือทัศนคติคิดลบและคับแคบมากกว่า มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดห้ามผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นกรรมาธิการบ้าง”
เป็นความเห็นจาก นายภราดา ปริศนานันทกุล
ขณะที่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เห็นว่า ”ผมไม่แน่ใจว่าใครน่าละอายกว่ากัน หากท่านอยากเห็นการเมืองแบบใหม่ก็ต้องหยุดพฤติ กรรมการเมืองแบบเก่า เริ่มจากตัวเรา ตัวท่านเลยครับ”
เด่นชัดว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมาธิการได้
ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนอะไรไปไม่ได้นอกจากความหวาดกลัว นอกจากความคับแคบ เมื่อหวาดกลัวและคับแคบเสียแล้วก็ย่อมไม่มีโอกาสร้าง ”นิว นอร์มอล” ได้ในทางการเมือง
เหล่านี้คือรูปธรรมแห่งการเดินตามคำเตือนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อ ส.ส.พรรคก้าวไกล
“ให้ระวังตัวไว้บ้างก็แล้วกัน”