สมาคมค้าทองคำ รายงานสถานการณ์ราคาทองคำ ว่า ราคาทองในประเทศ ณ วันที่ 11 กรกฎาคม ปรับลดลง 50 บาท(ต่อ 1 บาททองคำ) โดยราคาทองคำแท่ง ซื้อ 26,550 บาท ขายออก 26,650 บาท ทองรูปพรรณ ซื้อ 26,075.20 บาท ขายออก 27,150 บาท โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา( ช่วงวันที่ 6-11 กรกฎาคม) ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นรวม 500 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ปัจจัยหนุนให้ทองคำในประเทศปรับขึ้นได้มาก มาจากเงินบาทที่อ่อนค่าช่วง 31.08-31.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงราคาทองคำ Spot ปรับตัวลงจากการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นขานรับความหวังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมถึงข่าวคืบหน้ายารักษาโควิด-19 ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นรับข่าวการทดลองยา remdesivir สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 ได้ถึง 62% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปก็ปรับตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของอิตาลีและฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น ส่งผลมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้จะยังมีคงกังวลเกี่ยวกับยอดติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นทั่วโลกก็ตาม
สมาคมค้าทองคำ รายงานต่อว่า สัปดาห์หน้าช่วงวันที่ 13-17 กรกฎาคม สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึง ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงรายงานเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐก็มีให้ติดตามอย่างเข้มข้น ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายน รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ(Beige Book) ของเฟด ดัชนีภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนกรกฎาคม ดัชนียอดขายปลีก ใบอนุญาตก่อสร้าง/จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐมิชิแกน ซึ่งทั้งหมดเป็นรายงานเดือนมิ.ย. รวมถึง จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ติดตามรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของจีน รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)
ทั้งนี้ ร้านค้าทองคำ วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบบริเวณ 1,780-1,810 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับแรก 1,780 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,770 ดอลลาร์ ขณะที่แนวต้านแรกจะอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไป 1,820 ดอลลาร์
