“สาธิต” ย้ำ อย่าซื้อขาย-สวมสิทธิโครงการเที่ยวปันสุข “กำลังใจ” คนทำงานด่านหน้าโควิด-19

“สาธิต” ย้ำ อย่าซื้อขาย-สวมสิทธิโครงการเที่ยวปันสุข “กำลังใจ” คนทำงานด่านหน้าโควิด-19

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกล ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.) ทั่วประเทศ เกี่ยวกับเที่ยวปันสุขโครงการ “กำลังใจ” สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)

นายสาธิต กล่าวว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) อนุมัติหลักการเรื่องให้ต่างชาติเข้าประเทศ ทั้งเข้ามาจัดแสดงนิทรรศการ ถ่ายทำภาพยนตร์ กลุ่มเมดิคัล ฮับ(Medical hub) ที่เข้ามารักษาและเที่ยวต่อ และนักท่องเที่ยวอีลิทการ์ด(Elite card) สิ่งสำคัญ คือ การป้องกัน ดังนั้น ฝาก สสจ.รวมถึง อสม.ในการเข้มเรื่องมาตรการป้องกัน 3 เรื่อง คือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการป้องกันการแพร่เชื้อถึงร้อยละ 90 และจะสามารถเดินหน้าเปิดประเทศตามศักยภาพได้ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว

“ย้ำว่าเราไม่สามารถอยู่กับเลขศูนย์ แล้วไม่มีเงินกินข้าวได้ บางคนบอกอย่าเปิดประเทศ เพราะแบบนี้สบายดีแล้ว แต่หลายคนก็ยังลำบาก จึงต้องย้ำว่าประเทศไทยจะเดินหน้าในแนวทางนี้แน่นอน” นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับโครงการเที่ยวปันสุข ใช้จากเงินกู้ฟื้นฟูโควิด-19 ดังนั้น การใช้เงินต่องมีประสิทธิภาพ ปราศจากการรั่วไหล สสจ.ต้องไปทำความเข้าใจกับ อสม.ให้ดี เพราะตรงนี้ถือเป็นรางวัลให้คนเดินทางไปเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หากไม่สะดวกไปก็ต้องลงทะเบียนว่าไม่ไป อย่าให้เกิดปรากกฏการณ์เอาเลขประจำตัว อสม.ไปให้คนอื่นใช้ลงทะเบียนแทน หรือให้คนสวมสิทธิ เพราะหากเกิดเหตุเช่นนี้ออกไปทางโซเชียลมีเดียว ชื่อเสียง อสม.ที่ทำดีสะสมมานานก็ต้องพังลง และมีผลต่อเรื่องของสถานภาพ อสม.ด้วย สำหรับเรื่องการลงทะเบียนเข้าใจว่า อาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคน ตรงนี้ขอให้ สสจ.จัดทีมลงไปทำความเข้าใจ ให้คำแนะนำด้วยในการสอนการใช้งานและการลงทะเบียน

Advertisement

“ส่วนการคัดเลือกบริษัทเอเยนซีในการไปท่องเที่ยว ตอนแรกคิดว่าจะให้ สสจ.หรืออธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพทำการคัดเลือก แต่ก็จะเกิดประเด็นว่าล็อกสเปก ดังนั้น จึงให้ อสม.คัดเลือกกันเอง” นายสาธิต กล่าว

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า โครงการนี้ครอบคลุม อสม. อสส. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.จำนวน 1.2 ล้านคน ส่วนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสุขภาพภาคประชาชนนั้น จะหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้เพิ่มเป็นเฟส 2 ได้หรือไม่ สำหรับแพคเกจท่องเที่ยวโครงการนี้ จะเป็นแบบ 2 วัน 1 คืน ไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน “เป๋าตุง” ของธนาคารกรุงไทย และลงทะเบียนในแอปพลิเคชันด้วยหมายเลขโทรศัพท์และบัตรประชาชน โดยจะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เป็นต้นไป จากนั้นเข้าไปที่เว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย ติดต่อกับบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งบริษัทนำเที่ยว จะลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม เพื่อนำเสนอรายการท่องเที่ยว โดยการไปท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม ซึ่ง อสม.จะต้องเดินทางด้วยตนเอง โดยต้องเปิดแอพพ์เป๋าตุง และเลือกโครงการกำลังใจ เพื่อแสดงคิวอาร์โคด 2 ครั้ง คือ จุดรวมตัวบนรถก่อนออกเดินทางทั้ง 2 วัน

“แม้จะมีความยุ่งยาก แต่เนื่องจากเงินก้อนนี้มาจากเงินกู้ จึงต้องมีการตรวจสอบว่าเราไปจริง ไม่ได้ให้คนอื่นใช้สิทธิ และขอย้ำเรื่องการรวมกลุ่มไปเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ หรือมีการให้คนอื่นไปใช้สิทธิแทน เพราะตรงนี้เป็นเงินที่ถือว่าตอบแทนให้กำลังใจ อสม.ที่ทำงานและนำไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น หากมีการนำไปหาผลประโยชน์จะเป็นเรื่องของจริยธรรมที่จะส่งผลต่อสถานภาพของการเป็น อสม. และเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา สบส.จะร่วมกับจังหวัดในการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด” นพ.ธเรศ กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image