ด่วน! ทีมอัยการชี้ปม’ความเร็วรถ-โคเคน’หลักฐานใหม่ ให้ พงส.ดำเนินคดี ‘บอส อยู่วิทยา’ (อ่านฉบับเต็ม)

ทีมอัยการสอบคดีสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ ชี้ปม ‘ความเร็วรถ-โคเคน’ หลักฐานใหม่ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อ

อัยการชี้หลักฐานใหม่ คดี "บอส อยู่วิทยา"

โพสต์โดย Matichon Online – มติชนออนไลน์ เมื่อ วันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2020

คณะทำงานของอัยการตรวจสอบการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถเฟอร์รารี่ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2555 ของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่มี นายสมศักดิ์ ติยะวานิช รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ได้แถลงที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการนนทบุรี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ว่า ผลการพิจารณาของคณะทำงานว่า แม้คดีนี้จะมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธในข้อหาขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้อีก คณะทำงานพบว่าคดียังไม่ถึงที่สุด กล่าวคือ เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี น่าจะมีทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้

Advertisement

คณะทำงานพิจารณาโคเคน เชื่อได้ว่าเป็นเพราะกินยาปฏิชีวนะ ขณะนั้นมีแพทย์ยืนยันว่าเป็นไปได้ว่าจะออกฤทธิ์เหมือนโคเคน ปริมาณแอลกอฮอล์ ตอนได้ตรวจเวลา 16.00 น. มีปริมาณ 88 มิลลิกรัม หากย้อนกลับไปตอนเกิดเหตุตี 5 คำนวณแล้วจะมากกว่า 300 มิลลิกรัม ซึ่งเกินเกณฑ์ไปมาก น่าจะช็อกจนไม่สามารถขับรถได้เลย

ข้อเสนอแนะของคณะทำงานแม้คดีนี้จะมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้วก็ตาม แต่มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว คณะทำงานตรวจพบว่าคดียังไม่ถึงที่สุดกล่าวคือเมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดีซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้ก็สามารถสอบสวนต่อไปได้

คณะทำงานตรวจพบว่าในสำนวนการสอบสวนมีการตรวจเลือดของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ในวันเกิดเหตุและพบสารประเภท (โคเคน) ในเลือด แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนนายบอส ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทโคเคน

Advertisement

ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแม้พนักงานอัยการจะมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวอันเป็นผลให้คำสั่งไม่ฟ้องเสร็จเด็ดขาดตามกฎหมายและห้ามมิให้ทำการสอบสวนอีกก็ตาม แต่ปรากฏพยานหลักฐานสำคัญ คือ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อว่าขณะเกิดเหตุ ดร.สธนทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อเกิดเหตุคดีนี้ได้รับการประสานงานจาก พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น ให้ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุและดูกล้องวงจรปิดวัตถุพยานที่บันทึกภาพรถของนายวรยุทธ พร้อมกับคิดคำนวณความเร็วของรถที่แล่นไปขณะเกิดเหตุ โดย ดร.สธนได้ทำรายงานการคิดคำนวณส่งให้กับกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อใช้ประกอบคดีโดยยืนยันว่าขณะเกิดเหตุรถของนายวรยุทธ แล่นไปด้วยความเร็วประมาณ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนนอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงผ่านสื่อจากการให้สัมภาษณ์ของ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อว่าเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคิดคำนวณหาความเร็วของรถและตนได้คิดคำนวณพร้อมกับให้ความเห็นทางวิชาการว่าขณะเกิดเหตุรถที่ผู้ต้องหาขับขี่ไปน่าจะมีความเร็วไม่ต่ำกว่า 126 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นพยานหลักฐานใหม่และเป็นพยานสำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษนายวรยุทธ ได้ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 ทั้งสองประเด็นดังกล่าวคณะทำงานจึงมีความเห็นและนำกราบเรียนอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีนายวรยุทธต่อไป

 

อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม คณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image