ออส.ออกเอกสารแถลงข่าว ตั้งทีมพิจารณา คดีบอส อยู่วิทยา และตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดี เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด
เมื่อช่วงเย็นวันที่11 สิงหาคม สำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกเอกสาร สำนักงานอัยการสูงสุดเรื่องแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา และตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งที่ 1400/2563ลงวันที่ 4 ส.ค.63 แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีอาญาสำนวนส. 1เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ประกอบด้วย
1.นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงาน
2.นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองหัวหน้าคณะทำงาน
3.นายอุทัย สังขจร คณะทำงาน
4.นายประยุทธ เพชรคุณ คณะทำงานและเลขานุการ
5.นายนรา เขมอุดลวิทย์ คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีนายสมใจ โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม คณะทำงานดังกล่าวได้ประชุมพิจารณาสำนวนคดีส. 1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 และมีคำสั่งแจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายวรยุทธหรือบอสอยู่วิทยาผู้ต้องหาที่ 1ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2(โคเคน) และเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานใหม่และเป็นพยานที่สำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 ได้จึงสั่งสอบสวนพยานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่ 1ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายพร้อมแจ้งคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวนสน. ทองหล่อแล้วเมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 โดยให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 20 ส.ค.63และได้ประสานงานให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการแล้ว
สำหรับประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธหรือบอส อยู่วิทยาของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวอย่างแพร่หลายว่าเป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ในการตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุดในเรื่องดังกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณาเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการในวันอังคารที่ 18ส.ค.63 สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553มาตรา 17 ประกอบมาตรา 82จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเพื่อพิจารณาอีกทั้งจะต้องนำหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการอัยการเห็นชอบไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานานดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยรวดเร็วอัยการสูงสุดจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1446/2563ลงวันที่ 10 ส.ค.63 แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาโดยคณะทำงานประกอบด้วย
1.นายสมศักดิ์ บุญทอง หัวหน้าคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด
2.พลเอกประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ คณะทำงาน เจ้ากรมพระธรรมนูญ
3.พลโท กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน คณะทำงานหัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหารและตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด
4.นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล คณะทำงานอดีตรองอัยการสูงสุด
5.นายถาวร พานิชพันธ์คณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด
6.หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขานุการ
7.ร.ต.อ.สกล กริชฤทธิ์เดช ผู้ช่วยเลขานุการ
โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดว่า การรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมายชอบด้วยเหตุผลและใช้ความระมัดระวังละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใดแล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา
โดยวันเดียวกันนี้ นายเนตร นาคสุข ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุดเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสั่งสำนวนคดีนี้และเป็นการแสดงสปิริต แก่องค์กรอัยการและต้องการให้ทุกคนในสังคมเกิดความสบายใจโดยยืนยันว่าการสั่งคดีนี้ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย