คู่รัก เยอรมัน-บราซิล พบรักเสมือนจริง ‘ไม่อิน’ เท่ารักที่จับต้องได้
คอลัมน์ World Update
ถึงแม้เทคโนโลยีจะทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย รวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหน ก็สามารถติดต่อ สื่อสาร วิดีโอคอลกันให้ “หายคิดถึง” แต่หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ฟลอเรียน เมห์เลอร์ ชายเยอรมันวัย 41 และเรนาตา อัลเวส หญิงคนรักชาวบราซิลวัย 40 ไม่มีโอกาสได้เจอหน้ากันเลยนาน 6 เดือน เพราะยังไม่สามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปหากันได้
ทำให้ฟลอเรียนรู้ซึ้งเลยว่า “ความรักเสมือนจริง” ที่เห็นหน้ากันผ่านจอ บอกรัก บอกคิดถึงกันผ่านหน้าจอโทรศัพท์ หน้าจอแท็บเล็ต ไม่สามารถให้ความรู้สึกเหมือนได้เจอหน้ากัน ได้เจอตัวเป็นๆ หรือได้อยู่ด้วยกันจริงๆ
“เราเฟซไทม์หากันทุกวัน แต่มันก็เป็นแค่ความรู้สึกเสมือนจริง เราไม่สามารถกอดกัน เราไม่สามารถจูบกัน เราไม่สามารถตื่นนอนมาด้วยกัน ไม่สามารถจิบกาแฟด้วยกัน หรือไปเที่ยวในเมืองด้วยกัน” ฟลอเรียนให้สัมภาษณ์เปิดใจกับรอยเตอร์ที่บ้านพักในเมืองวีสล็อค เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากเดินทางไปร่วมชุมนุมในนครแฟรงก์เฟิร์ตเมื่อ วันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งจัดโดยสมาคมครอบครัว และคู่ชีวิตสองเชื้อชาติ เรียกร้องให้เยอรมนีออกวีซ่าให้แก่ครอบครัวแบบนี้
ฟลอเรียนและเรนาตา รู้จักกันทางออนไลน์มาราว 1 ปีที่ผ่านมา เรนาตาเคยเดินทางไปหาชายคนรักที่เยอรมนี 2 ครั้ง ส่วนฟลอเรียนเคยเดินทางไปหาเรนาตาที่บราซิล ครั้งหนึ่ง กระทั่งไม่นานมานี้เรนาตาตัดสินใจจะย้ายไปอยู่เยอรมนี และมองหางานทำที่นั่น โดยเธอมีเอกสารที่จำเป็นพร้อมแล้ว แต่ติดตรงที่ยังไม่สามารถเดินทางไปเยอรมนี ที่ยังมีประกาศเตือนห้ามประเทศที่มีความเสี่ยงสูงเดินทางเข้าประเทศ หนึ่งในนั้นมีบราซิล ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงเป็นอันดับสองของโลก รวมอยู่ด้วย
ขณะที่ พรมแดนส่วนใหญ่ของสหภาพยุโรปก็ยัง “ปิด” สำหรับนักเดินทางที่ไม่ใช่ประชาชนในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือไม่ใช่แรงงานที่จำเป็น หรือผู้ที่แต่งงานกับผู้มีถิ่นที่อยู่ในสหภาพยุโรป
เรนาตายังบอกรัก ส่งจูบถึงฟลอเรียนผ่านหน้าจอแท็บเล็ต ขณะที่ฟลอเรียนบอกเรนาตาว่า เขาคิดถึงเธอมากขนาดไหน บางครั้งทั้งคู่ยังชวนกันออกไปเดินเล่นเสมือนจริงนอกบ้านด้วยกัน แต่ฟลอเรียนก็ยังรู้สึกว่า “สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ เราไม่รู้เลยว่า เราจะได้เจอกันเมื่อไร เพราะพรมแดนยังปิดอยู่”
ที่ผ่านมา ทั้งคู่จึงใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย พยายามล็อบบี้ เรียกร้องภายใต้แฮชแท็ก #LoveIsEssential และ #LoveIsNot Tourism ให้รัฐบาลยอมอนุญาตให้พวกเขาทั้งสองได้มีโอกาสมาอยู่ด้วยกัน ขณะที่ผ่านมา มีบางประเทศในยุโรป อาทิ ออสเตรีย นอร์เวย์ เดนมาร์ก มีการออก “sweetheart visas” หรือ “วีซ่าคู่รัก” ปูทางให้คู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานเข้ามาในประเทศได้
เรนาตาบอกว่า เธอรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมที่คนเยอรมันสามารถเดินทางไปต่างประเทศเพื่อความบันเทิง และเสี่ยงติดเชื้อไวรัส
โควิด-19 ขณะที่เธอถูกห้ามเข้าเยอรมนี ทั้งที่เธอมีเหตุผลน่าสนใจกว่า “ฉันมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ครอบครัวฉันก็มีสุขภาพแข็งแรง” ทั้งยังว่า เธอยินดีจะรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และยอมรับการ “กักตัว” เพื่อความรัก
