โค้งสุดท้ายเลือก กก.เนติฯ ‘เมทินี’ชี้สมาชิกตื่นตัว สายศาล-อัยการ คึกคัก! มั่นใจบัตรทะลักกว่าครั้งก่อน

โค้งสุดท้ายเลือกกก.เนติฯ64 ‘เมทินี’เลขาฯเนติฯชี้รอบนี้สมาชิกตื่นตัวศาล-อัยการคึกคัก ‘ศักดา’ ตัวเต็งชวนทนายเเผ่นดินทั่วประเทศลงคะเเนนช่วงนับถอยหลัง ‘พฤฒิพร-ศุภกิตต์’ม้ามืดเบียดทีมเต็ง ‘ปรเมศวร์’เเผ่วปลายหลังมีคดีเมาขับชนคน สายบุคคลทั่วไปทีม’อรรถพล-สราวุธ-เกียรติขจร’นอนมา สายทนายความโอกาสกระจายเฉลี่ยสูงจับตาทีม’สมบัติ-นคร’

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นางเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา ในฐานะเลขาธิการเนติบัณฑิตยสภากล่าวถึงการเลือกตั้งกรรมการเนติบัณฑิตยสภาที่จะดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่จะหมดวาระลงในวันที่ 11 กันยายน ว่าการเลือกตั้งกรรมการเนติบัณฑิตยสภาชุดใหม่ได้มีกำหนดส่งบัตรเลือกตั้งให้สมาชิกวันที่ 18 มิถุนายน เเละมีกำหนดให้ส่งบัตรลงคะเเนนคืนภายในวันที่ 28 สิงหาคม ก่อนเวลา 16.30 น.เเละตรวจนับคะเเนนในวันที่ 29 สิงหาคม นี้ โดยบัตรเลือกตั้งกรรมการเนติฯจะมี4ประเภทดังนี้

1.บัตรสีฟ้าเป็นประเภทข้าราชการตุลาการ

2.สีชมพูเป็นประเภทข้าราชการอัยการ

Advertisement

3.สีเหลืองเป็นประเภททนายความ

4.สีเขียวเป็นประเภทบุคคลอื่น

โดยภายในซองบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทจะประกอบด้วยบัญชีรายชื่อสามัญสมาชิกผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการเนติฯ และส่งไปรษณีย์สำหรับใส่บัตรเลือกตั้งเพื่อส่งกลับมายังเนติบัณฑิตยสภา ซึ่งสามารถเลือกตั้งกรรมการเนติฯจากบุคคลในประเภทของตนจำนวนไม่เกิน 5 คน ปัจจุบันมีสมาชิกที่มีสิทธิเลือกตั้ง เเบ่งเป็นทนายความ 7,429คน,อัยการ 3,882คน ,ตุลาการ 5,029คน และ บุคคลอื่น 21,062

Advertisement

ที่ผ่านมาเนติบัณฑิตยสภาได้บรรจุเอกสาร สมุดบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งบรรจุลงซองพร้อมบัตรเลือกตั้ง ส่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ทำการเลือกตั้งและส่งกลับมายังเนติบัณฑิตยสภาโดยไม่ต้องติดแสตมป์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งยอดล่าสุดถึงวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งเป็น14วันก่อนวันครบกำหนดส่งบัตรคืนปรากฎว่ามีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกส่งกลับมาสายข้าราชการตุลาการ3,347ใบคิดเป็น66.55เปอร์เซ็นต์ สายข้าราชการอัยการ2,982 ใบคิดเป็น76.70 เปอร์เซนต์ สายทนายความ 1,025 ใบคิดเป็น13.70 เปอร์เซ็นต์ สายบุคคลอื่น 3,059 ใบคิดเป็น 14.54เปอร์เซ็น

นางเมทินี กล่าวต่อว่าการเลือกตั้งกรรมการเนติฯครั้งนี้จะเห็นได้ว่าสมาชิกมีการตื่นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะสายอัยการที่จะได้เป็นชุดบริหารเนติฯในปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการได้รับเลือกจากการเลือกตั้งที่มีผู้ใช้สิทธิเป็นจำนวนมากนั้นหมายถึงเขาได้เป็นตัวเเทนของคนกลุ่มนั้นอย่างเเท้จริงเเละได้คัดคนที่มีคุณภาพมาบริหารเนติฯได้ดี
ปีนี้อัยการเสนอตัวมามากมีทั้งผู้มีผลงานบริหารของอัยการ หรือเป็นอาจารย์สอนในเนติฯมาหลายปี หรือบางคนก็เป็นผู้บริหารเนติฯอยู่

นางเมทินี กล่าวว่า ในสายอื่นๆก็ถือว่าว่ามากกว่าทุกปี อย่างของศาลเเละอัยการถือว่าตอนนี้บัตรเกินยอดจากครั้งที่เเล้วไปเเล้ว ส่วนสายทนายความเเละบุคคลทั่วไปก็เชื่อว่าหลังจากนี้ที่ยังพอมีเวลาจะมีการส่งบัตรมามากกว่าครั้งที่เเล้ว ทางสายทนายความเราก็พยายามตามอยู่อยากให้ส่งบัตรกลับมากันเยอะๆ เเต่ต้องยอมรับว่าทั้งสายทนายความเเละบุคคลทั่วไปเราตั้งเป้าไว้ไม่สูงเนื่องจากเป็นอาชีพพอิสระทางวิชาชีพเเละกระจายอยู่ทั่วประเทศไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มก้อนเเละคนที่เสนอตัวต้องน่าสนใจจริงจึงจะสามารถกระตุ้นให้คนเลือกได้เยอะ เเต่เราก็จะใช้กลไกของเนติฯในการประชาสัมพันธ์ให้มากที่สุดโดยเราหวังว่าจะมีบัตรส่งมากขึ้นซึ่งยังมีอีก2อาทิตย์ขอเชิญชวนใช้สิทธิตอนนี้ยังทันอยู่ซึ่งสามารถเข้ามาส่งบัตรด้วยตนเองก็ได้ โดยในวันที่ 18 ส.ค.63 คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งกรรมการเนติฯจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการตรวจนับคะแนนฯ ซึ่งมี 4 ชุด ตามประเภทผู้มีสิทธิรับการเลือกตั้ง เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและเพื่อให้การดำเนินการในการนับคะแนนวันที่ 29 ส.ค.นี้ให้ เป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อย

นายศักดา ช่วงรังษี รองอธิบดีอัยการสํานักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญา ฯ 1ในผู้สมัครกรรมการเนติฯสายอัยการ กล่าวว่า รู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นพวกเราชาวอัยการให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งกรรมการเนติฯ และ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี นับจากวันที่มีการส่งบัตรเลือกตั้งไปให้ทุกท่านตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.63ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 14 ส.ค.63นี้ มีผู้ส่งบัตรเลือกตั้งกลับมามากกว่า 76.7 % แล้ว ทั้งนี้ยังมีเวลา อีก 2 สัปดาห์ ในการส่งบัตรเลือกตั้งกลับมายังเนติ ฯ ภายในวันที่ 28 ส.ค.63ก่อนเวลา 16:30 น. สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ส่งบัตรกลับมา ตนอยากเชิญชวนชาวอัยการที่รักที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง โปรดใช้สิทธิของตนอย่างเต็มที่ เลือกคนทำงานจริง มากประสบการณ์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกรรมการเนติ ฯ เพื่อให้ องค์กรของเราได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยทีมบุคลากรที่ทุกท่านไว้วางใจ ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำงานขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนได้แสดงออกถึงความตั้งใจจริงและความทุ่มเทในการก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกรรมการเนติฯ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์การทำงานรับใช้เนติฯ ที่ผ่านมากว่า 16 ปี สามารถทำให้เพื่อนพี่น้อง ชาวอัยการที่รัก ไว้วางใจให้เข้ามารับตำแหน่ง กรรมการเนติ ได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ หากได้รับโอกาสขอสัญญาว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ และจะทำตามคำที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า  รู้ทุกปัญหา พร้อมเจรจาแก้ไข ผลักดันพี่น้องก้าวไกล สู่บริบทใหม่แห่งเนติบัณฑิตยสภา เเต่ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ตนขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ในโอกาสนี้

นางพฤฒิพร เนติโพธิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายกล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีที่ขณะนี้พนักงานอัยการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นจำนวนถึง 76% แล้วปีนี้เป็นปีสำคัญที่อัยการจะเข้าไปมีบทบาทอย่างมากในเนติบัณฑิตสภา ขอให้อัยการที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งช่วยกันรักษาสิทธิ์ของอัยการให้เป็นประวัติการณ์ใช้สิทธิ์ครบจำนวน 100% เลือกอัยการที่เห็นว่าเป็นคนดีมีความรู้ความสามารถมีความทุ่มเทและจริยธรรมเขาไปทำงานร่วมกับตัวแทนสาขาอาชีพอื่นให้สมเกียรติและศักดิ์ศรีของพนักงานอัยการในเนติบัณฑิตยสภาการลงเลือกตั้งครั้งนี้ตนมีนโยบายเด่นมุ่งสนับสนุนและผลักดันให้อัยการมีบทบาทในเนติบัณฑิตยสภามากขึ้น สนับสนุนให้มีการเรียนการสอนทางออนไลน์เพื่อให้นักศึกษาเข้าถึงการสอนของอาจารย์ ได้แม้จะอยู่ในที่ห่างไกล จัดการอบรมกฎหมายพิเศษต่าง ๆ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ กฎหมายร่วมทุน และเพิ่มจำนวนทุนสงเคราะห์นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ กล่าวว่า เนติฯไม่เพียงแต่เป็นแหล่งส่งเสริมการศึกษากฎหมายและการประกอบอาชีพทางกฎหมาย แต่สถาบันอันทรงเกียรตินี้ยังเป็นองค์กรกลางของวิชาชีพและวิชาการทางกฎหมายที่มีบทบาทสูงแก่นักกฎหมายทุกแขนงอาชีพรวมทั้งนักศึกษากฎหมายและประชาชนทั่วไป อัยการซึ่งมีองค์ความรู้ที่แตกต่างและมีบทบาทสำคัญในกระบวนการยุติธรรม ย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายแก่เนติบัณฑิตยสภา ในกระบวนการเรียนรู้ และหลักสูตรการฝึกอบรม ตนเองในฐานะตัวแทนของอัยการจะนำองค์ความรู้ไปสร้างความแตกต่างในเนติบัณฑิตยสภา ให้เป็นแหล่งความรู้ที่ไม่หยุดนิ่งไร้พรมแดน โดยจะมุ่งผลักดันการนำเอาระบบดิจิตอลและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้บริหารจัดการความรู้ของเนติบัณฑิตยสภาสู่ระบบออนไลน์และระบบดิจิทัล สร้างนักกฎหมาย ที่มีจิตสำนึกและคุณธรรมอันสะท้อนถึงเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของอัยการ มุ่งพัฒนาสู่สากลโดยร่วมมือกับเนติบัณฑิตยสภาประเทศต่าง ๆ และสถาบันการศึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศในการพัฒนาหลักสูตรและเปิดหลักสูตรให้มีความหลากหลายทั้งในระดับสูงและระดับนานาชาติ ขอฝากความถึงพนักงานอัยการว่า การเลือกตั้งกรรมการเนติบัณฑิตยสภาครั้งนี้เป็นรอบการบริหารของอัยการ จึงมีอัยการใช้สิทธิ ลงคะแนนเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ตนเห็นว่าองค์กรอัยการประกอบด้วยผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย ตามที่ตนอาสาเป็นตัวแทนอัยการจะขอร่วมมือและประสานกับอัยการทุกท่านที่ประสงค์จะเข้าไปร่วมบริหารในแต่ละภาคส่วน

ว่าที่พันตรีสมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย อดีตอุปนายกฝ่ายบริหารเเละเลขาธิการสภาทนายความผู้อำนวยการสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความสภาทนายความ ผู้เสนอตัวสายทนายความกล่าวว่า ขอฝากถึงทนายความอาวุโสและพี่น้องทนายความที่จบเนติฯทุกท่าน หนึ่งเสียงของท่าน คือ กำลังใจของคนทำงานโปรดใช้สิทธิเพื่อเป็นการยืนยันว่า ตัวแทนของท่านเป็นตัวแทนจากทนายความส่วนใหญ่ และทนายความได้ให้ความสำคัญกับองค์กรแห่งนี้เป็นอย่างมาก เพื่อให้ตัวแทนสายทนายความมีสิทธิและเสียงโดยสมบูรณ์แบบ ในการแสดงความคิดเห็น เพื่อกำหนดนโยบายในการยกระดับมาตรฐานแก่นักกฎหมาย และดูแลวิชาชีพทนายความ ต่อไป โดยผู้สมัครคณะตนอีก4คนเป็นผู้มีประสบการณ์ในการบริหารและวิชาการ ยึดหลักคุณธรรมในการทำงาน กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ กล้าตัดสินใจทั้ง 5 คน ประกอบด้วยนายสัตยะพล สัจจเดชะ อดีตนายกสมาคมนักกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา,นายพูลศักดิ์ บุญชูกรรมการตรวจสอบภายในเนติบัณฑิตยสภาอดีตกรรมการบริหารสภาทนายความ 3 สมัย ,นางสาวรัตนา ปืนแก้ว ทนายความดีเด่น ปี 2550 ,ดร.สมชาย รัตนชื่อสกุล คณบดีคณะนิติศาตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตขออาสาเป็นตัวแทนวิชาชีพทนายความ

“ต้องขออนุญาตย้ำเตือนอีกครั้งหนึ่งว่า บัตรเลือกตั้งของท่านจะต้องถึงที่เนติบัณฑิตยสภา ภายในวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 16.30 น. ท่านที่จะส่งทางไปรษณีย์ ต้องเผื่อเวลาไว้ไม่น้อยกว่า 3 วันด้วยนะครับ สำหรับท่านที่อยู่ใกล้เนติบัณฑิตยสภา ท่านสามารถนำมาส่งที่ฝ่ายทะเบียนเนติบัณฑิตยสภาได้เลย”ว่าที่พันตรี สมบัติกล่าว

สำหรับบรรยากาศโค้งสุดท้ายก่อนครบกำหนดคืนบัตร ผู้ลงสมัครเป็นกรรมการเนติฯของทุกสายมีการหาเสียงกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะสายอัยการปีนี้ดุเดือดมากเนื่องจากรอบนี้กรรมการผู้ที่จะได้รับเลือกจากสายอัยการจะได้ดำรงตำเเหน่งเลขาธิการเนติบัณฑิตยสภา เเละเลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ซึ่งเป็นตำเเหน่งบริหารเนติฯ

โดยมีการจับเป็นทีมเต็งที่มี นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา คิวขึ้นอัยการสูงสุด , นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ,นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรีอัยการคนดังหน้าสื่อ ,นาย มั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ,น.ส.นารี ตัณฑเสถียร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย รวม5 คนเเม้เป็นทีมที่เเข็ง เเต่ก็มีโอกาสที่จะโดนผู้สมัครรายบุคคลเข้าไปเเทรกได้สูงเช่นกัน ปีนี้อัยการที่จะได้โควต้าสำคัญมองว่าควรจะมีคนที่มีประสบการณ์ในเนติบัณฑิตยสภาอยู่เเล้วเข้าไปซึ่ง มองเเล้วในทีมจะมี นายสิงห์ชัยเเละนายปรเมศวร์ที่มีประสบการณ์ในเนติฯสูงเเต่ปรากฎว่ามีข่าวเกี่ยวกับการดำเนินคดีนายปรเมศวร์ในความผิดฐานเมาเเล้วขับชนเเล้วหนี ซึ่งอาจส่งผลกระทบภาพลักษณ์ได้เเต่ช่วงที่ปรากฎข่าวนั้นอัยการมีการส่งบัตรเลือกไปที่เนติฯจำนวนมากเเล้วจึงคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนักในเรื่องคะเเนนที่ลงมาก่อนหน้านี้เยอะเเล้ว

เเต่อีกมุมหนึ่งเนติฯซึ่งเป็นสถานที่สอนฝึกอบรมวิชาชีพกฎหมายจึงจำเป็นต้องตรวจสอบดูเเล ผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายให้ดำรงตนอย่างเที่ยงธรรมมีความประพฤติไม่เสื่อมเสีย รักษาเกียรติศักดิ์เเห่งการเป็นสมาชิกไว้ เพราะถ้าสมาชิกทำผิดจนกระทั่งถูกถอดถอนจากสมาชิกฯก็จะไม่สามารถประกอบวิชาชีพที่เป็นอยู่ต่อได้ สมาชิกสายอัยการที่ส่งบัตรชวนหลังอาจตะมีการพิจารณาตรงนี้ประกอบ

นอกจากนี้ยังมี นายศักดา ช่วงรังษี ที่ประกาศตัวลงรับเลือกเป็นกรรมการมีประสบการณ์นั่งรองเลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา กว่า 15 ปีมีประสบการณ์ในหลายภาคส่วนในเนติฯสูงยังได้ประกาศนโยบายไว้ว่าจะมีส่วนผลักดันให้อัยการได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของเนติบัณฑิตยสภาอย่างเต็มที่ อย่างในเรื่องการสอนหนังสือหรือการตรวจข้อสอบ ที่สำคัญนายศักดานั้นมีความสนิทเเละได้รับการสนับสนุนเเละการช่วยเรียกคะเเนนเสียง จากนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการอดีตอัยการสูงสุดที่มีบารมีในหมู่อัยการอย่างมากเนื่องจากเป็นเด็กเเปดริ้วเเละเป็นกรรมการในสมาคมชาวฉะเชิงเทราที่มีนายอรรถพลเป็นนายกสมาคมด้วยกัน ด้วยประสบการณ์เเละคนสนับสนุนโอกาสจึงมากที่จะเบียดเข้าไปเป็น1ใน5กรรมการเนติฯสายอัยการได้เเน่

รวมถึงยังมีบุคคลอื่นที่น่าสนใจ เช่น มล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ อัยการพิเศษฝ่ายพัฒนากฎหมาย และมีความโดดเด่นทั้งงานบริหารและงานวิชาการ เป็นอาจารย์ผู้บรรยายกฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รามคำแหง และแห่งอื่น ๆ เป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการรองอัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดมาหลายสมัยติดต่อกัน ทำให้มีบทบาทในการผลักดันให้มีการปรับปรุงโครงสร้างและตำแหน่งของอัยการมาโดยตลอด รวมทั้งสิทธิประโยชน์ ค่าตอบแทน และกรอบอัตรากำลัง

นางพฤฒิพร เนติโพธิ์ อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย ที่มีผลงานโดดเด่นทั้งในด้านสายงานวิชาการและสายงานบริหาร เป็นกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติสาขานิติศาสตร์ อาจารย์สอนกฎหมายที่เนติบัณฑิตยสภา อยู่ในสายงานให้คำปรึกษาและตรวจร่างสัญญาของรัฐมากว่า 20 ปี มีบทบาทสำคัญในการรักษาประโยชน์ของรัฐในการตรวจร่างสัญญาและเจรจาต่อรองโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน และโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ ของอีอีซี มีนโยบายเด่นมุ่งผลักดันให้อัยการมีบทบาทในเนติบัณฑิตยสภามากขึ้น

ส่วนสายศาล นายธานี สิงหนาท ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีก ,นาย เอื้อน ขุนแก้ว ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ,นาย ประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ อธิบดีศาลแพ่งตลิ่งชัน (เลขาฯสำนักอบรมและศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาคนปัจจุบัน) ,นายทองธาร เหลืองเรืองรอง ผู้พิพากษาศาลฎีกา , นายอำนาจ พวงชมพู ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ อดีตอธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตฯคนเเรก จับ5คนเป็นทีมเดียวกัน ยังเเข็ง ถ้าจะมีเเทรกเข้ามาได้คงเป็น นาย วิบูลย์ แสงชมพู ผู้พิพากษาศาลฎีกา คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม(กบศ.)เเละอดีต คณะกรรมการตุลาการ (กต.)ที่มาเเรง

สายทนายความคงหนีไม่พ้นสมาชิกของทั้ง 4 ทีมผสมกัน ได้เเก่ 1.ทีมดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภา2.ทีมว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เนติบัณฑิตยสภา เเละอดีตผู้บริหารสภาทนายควาทเเละ 3. ทีม ศ.(พิเศษ)ดร.เดชอุดม ไกรฤทธิ์ อดีตนายกสภาทนายความหลายสมัย เเละ4.ทีมคณะตราสามดวง ของนายนคร พจนวรพงษ์ กรรมการ อดีตผู้พิพากษาอาวุโส ที่ชูนโยบายโดดเด่นชัดเจนเรื่องผลักดันให้มีโควต้าอุปนายกคนที่3 ในเนติบัณฑิตยสภามาจากนายกทนายความพร้อมกล้าเเสดงความเห็นในสิทธิที่ทนายฯพึงมี

การเเข่งขันในสายทนายความเชื่อว่าการตัดสินใจส่วนมากจะเลือกจากผู้ที่เคยมีประสบการณ์เป็นอาจารย์ผู้บรรยายกฎหมายในเนติบัณฑิตยสภามาหลายปีมีลูกศิษย์หลายรุ่นเเละทนายความผู้มีชื่อเสียงในสังคมโดยผู้ที่มีตำเเหน่งในกรรมบริหารสภาทนายจะมีความได้เปรียบ มีการมองกันว่าโอกาสผู้ที่เป็นหัวหน้าทีมเเละสมาชิกของเเต่ละทีมที่มีบทบาทในสังคมจะมีสิทธิได้รับเลือก โดยในสายทนายความโอกาสที่ทีมไหนได้รับการเลือกยกทีมเลยเป็นไปได้น้อยมาก เเต่ทีมที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องตัวสมาชิกคงเป็นทีมของ ว่าที่พ.ต.สมบัติ เเละนายนคร

ส่วนสายบุคคลทั่วไปซึ่งเป็นสายที่ผู้มีสิทธิเลือกจะเป็นจากสมาชิกนักกฎหมายที่ไม่อยู่ใน3ประเภทข้างต้น สายนี้การเเข่งขันไม่ค่อยตื่นเต้นเพราะมีการจับทีมของสมาชิกที่มีชื่อเสียงในวงการนักกฎหมายระดับประเทศ 5คน ประกอบด้วย นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการอดีตอัยการสูงสุดซึ่งมากด้วยบารมีในอัยการรวมทั้งเป็นอาจารย์ในเนติฯมาหลายปีเเต่งหนังสือกฎหมายหลายเล่มมีลูกศิษย์จำนวนมาก ,นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมคนปัจจุบันที่มีผลงานด้านการบริหารเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นศาลดิจิทัลชูภาพลักษณ์ศาลยุติธรรมประหยัดรวดเร็วเข้าถึงง่าย, ศ.ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์ เเห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปรมาจารย์ด้านวิ.อาญา, นายสมชาย จุลนิติ์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, ศ.(พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผ.อ.สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย หรือ TIJ อดีตปลัดก.ยุติธรรม ก็คงอยู่ที่ว่าสุดท้ายเเล้วคะเเนนของเเต่ละคนจะมากน้อยเเตกต่างกันอย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image