‘องค์การค้า’ ร่วมมือ ก.แรงงาน เปิดบูธจ๊อบเอ็กซ์โปร์ รับพนักงานหวังได้เลือดใหม่พัฒนาองค์กร

‘องค์การค้า’ ร่วมมือ ก.แรงงาน เปิดบูธจ๊อบเอ็กซ์โปร์ รับพนักงานหวังได้เลือดใหม่พัฒนาองค์กร

เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. และการประชุมสกสค. ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมองค์การค้าได้หารือเรื่องแผนฟื้นฟูองค์การค้า ซึ่งนายอดุลย์ บุสสา ผู้อำนวยการองค์การค้า ได้นำเสนอโครงสร้างของบุคลากรใหม่ โดยมีความกระชับและมีความเหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายเงินเดือนขององค์การค้าด้วย ซึ่งที่ประชุมมีมติให้องค์การค้าเสนอร่างแผนบริหารบุคคล ใหม่ เพราะคณะกรรมการอยากจะเพิ่มแผนงานในด้านเทคโนโลยีมากขึ้น โดยเฉพาะการค้าทางออนไลน์ซึ่งเป็นเป้าหมายการทำงานในอนาคตขององค์การค้า

“เร็วๆนี้ องค์การค้าจะเปิดรับพนักงานใหม่ โดยศธ. ร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน ที่จะให้องค์การค้าตั้งบูธรับสมัครพนักงานในงานจ๊อบเอ็กซ์โปร์ 2020 วันที่ 26-28 กันยายนนี้ ถือเป็นการเปิดกว้างที่จะทำให้องค์การค้าได้พนักงานเลือดใหม่ไม่มีกรอบการทำงานแบบเดิมๆมายึดไว้ ส่วนจะรับสมัครกี่คนนั้น อาจจะรับสมัครหลักสิบคน แต่ในโครงสร้างใหม่พนักงานองค์การค้าจะมีประมาณ 295 คน ดังนั้นองค์การค้า ต้องไปหารือกันว่าจะเปิดรับสมัครพนักงานกี่คน โดยให้เป็นไปตามกรอบที่ตนมีอยู่” นายธนพร กล่าว

นายธนพร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการจัดพิมพ์หนังสือเรียน ในปีการศึกษา 2564 จากที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือแบบเรียนมีมติให้องค์การค้าพิมพ์ตำราเรียนทั้งหมด ซึ่งองค์การค้าได้รายงานแนวทางการจัดพิมพ์หนังสือเรียนให้ที่ประชุมทราบว่าจะสามารถจัดพิมพ์และส่งหนังสือให้โรงเรียนได้อย่างช้าสุดภายในเดือนเมษายน 2564 ซึ่งทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 แน่นอน

นายธนพร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้องค์การค้า อยู่ระหว่างจัดตั้งคณะทำงานศึกษาเพื่อขายที่ดินลาดพร้าว จำนวน 300 ตารางวา ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งสถานีย่อยของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) โดยที่ดินนี้องค์การค้าได้ทำบันทึกข้อตกลงกับ กฟน.เมื่อหลายปีก่อน เป็นการแลกเปลี่ยนกัน โดยองค์การค้าจะไปใช้ที่ดินของ กฟน.ตั้งศึกษาภัณฑ์ แต่เมื่อศึกษาภัณฑ์ยุบลง องค์การค้าก็พร้อมที่จะคืนที่ดินให้ และขอที่ดินตรงลาดพร้าวคืน ซึ่งกฟน.คืนที่ดินส่วนนี้ให้ไม่ได้เพราะจะใช้งบในการรื้อถอนก่อสร้าง ซึ่งกฟน.ยินดีจะซื้อที่ดิน ดังนั้นที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานศึกษา เพื่อมาดูว่าจะขายที่ดินนี้ในราคาเท่าใด เบื้องต้นคาดว่าจะขายในหลักร้อยล้าน

Advertisement

“ส่วนที่ประชุม สกสค.ที่ประชุมพิจารณาเรื่องการใช้งบประมาณปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ไม่ได้ใช้งบประมาณได้ไม่เต็มที่ จึงมีมติให้ สกสค.จัดทำแผนเหลื่อมงบประมาณเพื่อนำงบส่วนนี้มาใช้บริหารจัดการในปี 2564 นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ สกสค.เสนอให้แก้ไข ข้อบังคับเรื่องการมอบอำนาจในการบริหารงาน โดยให้ผู้อำนวยการองค์การค้า มีความคล่องตัวในการบริหารงานและมอบหมายงานให้ผู้บริหารในองค์การค้าจัดการเรื่องคดีการฟ้องร้องขององค์การค้าต่อไป จากเดิมที่เลขาธิการ สกสค.มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการองค์การค้าจัดการเรื่องคดีความเท่านั้น ผู้อำนวยการองค์การค้าไม่มีอำนาจให้การส่งมอบงานต่อให้กับผู้บริหารรายอื่น ซึ่งจะทำให้การทำงานของผู้อำนวยการองค์การค้าลดลง เพราะต้องยุ่งกับคดีความจำนวนมาก จนอาจจะไม่มีเวลาบริหารและพัฒนาองค์การค้า”นายธนพร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image