ทรัมป์วิ่งรอกหาเสียง 4 รัฐ ทิ้งทวนเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขณะหาเสียงที่รัฐฟอริดา เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน / รอยเตอร์

ทรัมป์วิ่งรอกหาเสียง 4 รัฐ ทิ้งทวนเลือกตั้งปธน.สหรัฐ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เตรียมการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 59 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ (ตรงกับคืนวันเดียวกันตามเวลาไทย) ด้วยการวิ่งรอกพบประชาชนเพื่อปราศรัยทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายใน 4 รัฐในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง เริ่มต้นจากการปราศรัยที่รัฐนอร์ธแคโรไลนา ต่อด้วย เพนซิลเวเนีย, วิสคอนซิน และ 2 จุดในรัฐ มิชิแกน ตามลำดับ โดยกำหนดปิดท้ายการหาเสียงจริงด้วยการปราศรัยที่เมืองแกรนด์ แรปิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายในการหาเสียงของทรัมป์เมื่อ 4 ปีก่อน เป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่แพ้การเลือกตั้งในสมัยที่สอง นับตั้งแต่จอร์จ บุช ซีเนียร์ ในปี 2535 เป็นต้นมา

ทั้งนี้ ทรัมป์ ได้ชัยชนะในรัฐทั้ง 4 นี้เหนือคู่แข่งอย่างนางฮิลลารี คลินตัน ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผลการสำรวจความนิยมหรือโพลแสดงให้เห็นว่า โจ ไบเดน ตัวแทนของพรรคเดโมแครตน่าจะทำให้รัฐทั้งหมดเหล่านี้กลับมาเป็นรัฐเดโมแครตอีกครั้งทั้งหมด

นายไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีของ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา พร้อมนาง คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครคู่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และคู่ชีวิตของทั้งสอง จะปักหลักหาเสียงอยู่ภายในรัฐเพนซิลเวเนีย แยกกันหาเสียงทั่วทั้งสี่ทิศ ระดมการสนับสนุนทั้งสมาชิกสหภาพแรงงาน เรื่อยไปจนถึงชุมชนแอฟริกันอเมริกันในรัฐสำคัญนี้ โดยกำหนดจะปิดฉากหาเสียงในช่วงเย็นด้วยการจัดชุมนุมแบบไดรฟ์อินแรลลี ในนครพิทสเบิร์ก ที่มี เลดี้ กาก้า เป็นแกนนำ
ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์เพิ่มสูงมากขึ้นตามลำดับเป็น 92.2 ล้านคนแล้ว โดยราว 2 ใน 3 คือราว 60 ล้านคน เป็นการลงคะแนนทางไปรษณีย์ ที่เหลือเป็นการใช้สิทธิ์ล่วงหน้าโดยการนำส่งบัตรเลือกตั้งด้วยตัวเอง

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องออกมาแสดงความกังวลซ้ำอีกครั้งต่อการยืดการนับคะแนนที่ใช้วธีส่งทางไปรษณีย์ออกไปช้ากว่าวันเลือกตั้งด้วยการระบุว่า การทำเช่นนี้เป็นเรื่องแย่มากๆ และชี้ว่า ทีมทนายความของตนกำลังเข้าไปตรวจสอบเพื่อดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องนี้

Advertisement

พร้อมกันนั้น ผู้นำสหรัฐอเมริกาออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของเว็บไซต์ แอกซิออส ที่ระบุว่า ทรัมป์ เตรียมชิงประกาศชัยชนะ หากว่าการนับคะแนนเบื้องต้นแสดงว่าตนนำหน้านายไบเดน แม้ว่าจำนวนคะแนนคณะผู้เลือกตั้งจะยังไม่ปรากฏชัดก็ตาม

ทางด้านนาง มิเชล ลี โฆษกสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สาขาซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ผู้สนับสนุนทรัมป์ ใช้รถปิ๊กอัพและเอสยูวีติดธงเลือกตั้งของทรัมป์และพรรครีพับลิกัน แห่ไปล้อมกรอบขวางขบวนรถบัสในขบวนหาเสียงของนายไบเดน บริเวณทางหลวงระหว่างรัฐสาย 35 ที่เชื่อมต่อระหว่างซานอันโตนิโอ กับเมืองออสติน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยรถในขบวนหาเสียงของไบเดนคันหนึ่งถูกรถฝ่ายตรงข้ามโฉบเข้าครูดด้านข้าง จนเกือบเกิดอุบัติเหตุขึ้น และขบวนหาเสียงของไบเดนต้องโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งส่งกำลังมาคุ้มครองจนขบวนรถถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด

ประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างว่า คนเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเพียงความพยายามเข้าไป “ให้ความคุ้มครอง” ขบวนรถหาเสียงของไบเดนเท่านั้น ในขณะที่ทีมหาเสียงของไบเดนออกมาประนามการกระทำดังกล่าวและระบุว่า ไม่เคยเกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านๆ มา อย่างน้อยที่สุดก็ไม่เคยมีประธานาธิบดีที่เห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องดีมาก่อนในประวัติศาสตร์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image