นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 เป็นต้นมา สร้างความหวั่นวิตกให้กับประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกภาคส่วนในประเทศไทย โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเพราะถือเป็นช่วงไฮซีซั่น (High Season) ที่ผู้ประกอบการต่างตั้งตารอคอยในการกอบกู้วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงแรก รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เตรียมเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ต้องชะงักลง เพราะหลายจังหวัดในประเทศไทยถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงอยู่ในการควบคุมสูงสุด
บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวและต้องการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว เรือสำราญสำหรับดินเนอร์ ทั่วประเทศไทยที่เปิดให้บริการผ่านทางมาคาเลียส กว่า 200 ราย จึงออกมาตรการช่วยเหลือ แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ 1.การช่วยเหลือ “กลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยว” โดยดึงความต้องการของกลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยวในช่วงวิกฤตนี้ ที่ต้องการปรับแผนการท่องเที่ยวให้มีความยืดหยุ่นมากที่สุด (Flexible Travel Plan) ซึ่งมาคาเลียสได้หารือแนวทางร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อขอความร่วมมือปรับยืดอายุการใช้งานของวอเชอร์ไปจนถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤตที่จะค่อยๆ คลี่คลายลง รวมถึงการให้ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการท่องเที่ยวในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ สามารถเปลี่ยนแปลงโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ได้ตามความเหมาะสม โดยปรับใช้งานได้ทันที
สำหรับลูกค้าที่จองวอเชอร์ ดินเนอร์บนเรือสำราญ ในขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ใช้บริการ โดยผู้ให้บริการบางรายปรับเวลาการให้บริการเป็นเวลา 18.30-20.45 น. และบางรายปิดให้บริการชั่วคราว แต่ทั้งนี้มาคาเลียสได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเรือสำราญ ขอยืดอายุการใช้งานวอเชอร์ออกไปถึงช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ด้วยเช่นกัน
สำหรับแนวทางช่วยเหลือที่สองที่เตรียมไว้คือ “กลุ่มผู้ประกอบการ” ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว โดยดึงจุดแข็งด้านการเป็นออนไลน์ทราเวลแพลตฟอร์ม มาช่วยทำการตลาดสร้างความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้หลังประเทศไทยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเน้นการทำตลาดแบบ Online Marketing ตั้งแต่การสร้างจุดแข็งของแบรนด์ การทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น Buy Now Stay Later จองก่อนเข้าพักทีหลัง รวมถึงการเชิญบล็อกเกอร์ด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงร่วมรีวิวเพื่อสร้างการรับรู้และการตอกย้ำความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในด้านต่างๆ ทั้งการบริการ ความสวยงาม และการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นต้น “หวังว่ามาตรการที่บริษัทจัดเตรียมไว้จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มลูกค้า นักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้ด้วยดี” นางสาวณีรนุช กล่าว
