TPIPL ออกหุ้นกู้ วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้าน อายุ 4 ปี 3 เดือน ดอกเบี้ย 4.15% เปิดจองซื้อ 1-3 มี.ค.

รายงานข่าวจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL แจ้งว่า TPIPL เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ TPIPL ครั้งที่ 1/2564 มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 4,000 ล้านบาท จำนวนหน่วยที่เสนอขายไม่เกิน 4 ล้านหน่วย โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2568 หรือมีอายุ 4 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 4.15% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน หรือทุกวันที่ 4 มีนาคม, 4 มิถุนายน, 4 กันยายน และ 4 ธันวาคม ตลอดอายุหุ้นกู้ เริ่มชำระดอกเบี้ยงวดแรก 4 มิถุนายน 2564 โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่อันดับ BBB+ และแนวโน้มอันดับเครดิต Stable

ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวแก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป (Public Offering) ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100 หน่วย โดยผู้ที่สนใจสามารถแสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 10 ราย ได้แก่ 1.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 2.บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 3.บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด 4.บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) 5.บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด 6.บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด 7.บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) 8.บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) 9.บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ 10.บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้มีกำหนดให้นักลงทุนชำระค่าจองซื้อในวันที่ 1-3 มีนาคม 2564

บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่จะครบกำหนดชำระคืนหุ้นกู้ (บางส่วน) จำนวน 2,600 ล้านบาท ในเดือนเมษายน 2564 และส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปูนซีเมนต์และโรงงานเม็ดพลาสติกจำนวน 1,400 ล้านบาท

ปัจจุบัน TPIPL ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ในประเทศไทย โดยผลการดำเนินงานตามงบการเงินรวมงวด 9 เดือนแรก 2563 (มกราคม-กันยายน) มีรายได้รวม 27,132.05 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,726.89 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental Social and Governance) โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และหลักธรรมาภิบาล (Governance) จากการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปัจจุบันได้นำเทคโนโลยี ชั้นสูงมาใช้ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้เชื้อเพลิง โดยสามารถใช้ขยะมูลฝอยจากชุมชนต่าง ๆ (Municipal Solid Waste) เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ได้ถึง 2 ล้านตันต่อปี เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเน่าเหม็นของขยะมูลฝอยที่กองล้นเต็มพื้นที่ชุมชน และลดการใช้ถ่านหินได้อีกด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image