บิ๊กตู่ โต้รัวๆ ยืนยันซื้อเรือดำน้ำ เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ ใครเจตนาแบบไหน ต่อบ้านเมือง

“บิ๊กตู่” ร่ายยาว ยันไม่มีเอี่ยวจัดซื้อจัดจ้างของกห. ย้ำ ซื้อเรือดำน้ำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเล ชี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ใครมีเจตนาดี-เจตนาร้ายต่อแผ่นดิน

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงการจัดซื้อเครื่องแต่งกายของทหารที่ฝ่ายค้านกล่าวหามีการจัดซื้อราคาสูงเกินจริง ว่า การจัดซื้อทางราชการต้องทำตามกฎหมาย มีการกำหนดขั้นตอนชัดเจน สอดคล้องหลักการความคุ้มค่า โปร่งใสมีประสิทธิภาพ โดยมีเงื่อนไขที่ผู้ขายต้องปฏิบัติ แตกต่างจากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เช่น การเสนอราคา การวางหลักประกันสัญญา การค้ำประกันความชำรุดเสียหาย การจัดส่งพัสดุตามระยะเวลาส่งมอบ การปรับเมื่อไม่ปฏิบัติตามสัญญา 0.2 เปอร์เซ็นต์ของวงเงินสัญญา จึงมีความแตกต่างการจัดหาจากการสั่งซื้อออนไลน์ และบริษัทผู้ขายเหล่านี้ต้องเสียภาษีให้รัฐด้วย ราคาจึงต่างกันพอสมควร และสินค้าที่กองทัพสั่งมีคุณลักษณะเฉพาะ สเปคเหมาะสมกับการใช้งานทางทหาร มีความคงทนแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป กรณีการจ้างผลิตเครื่องแต่งกายทหาร มีการสืบราคาจากการผลิตจากผู้ประกอบการที่มีขีดความสามารถตรงความต้องการ ผลิตได้ครั้งละจำนวนมากๆ ทันเวลา มีคุณภาพเหมือนกันทั้งกองทัพที่ไม่อาจหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป

“ส่วนการจัดหากล้องตรวจหาเวลากลางคืนแบบตาเดียว เรามีทหารหลายหน่วยทั้งหน่วยทหารราบ หน่วยรบพิเศษ มีความจำเป็นต้องใช้กล้องดังกล่าวลาดตระเวนเวลากลางคืน จำเป็นต้องใช้กล้องมีประสิทธิภาพสูง ได้ตรวจสอบบริษัทที่ผลิตที่มีสเปคตามที่ต้องการแล้วมีเพียงรายเดียว ทำให้ต้องซื้อในวิธีเฉพาะเจาะจง เป็นราคาเดียวกับที่เคยจัดซื้อในปี 2561-2562 ขอให้ฟังกันบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ เขาไม่ได้ผลิตมารอไว้ให้เราซื้อ จะเห็นได้ว่า ต้องใช้เวลาหลายปี ดังนั้น เมื่อทำสัญญากันแล้ว มีการจ่ายเงินเป็นงวดๆ เราไม่ได้ใช้จ่ายงบประมาณเป็นก้อนทีเดียว จึงขอให้ทำความเข้าใจในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงกลาโหมด้วย ซึ่งกระทรวงกลาโหมต้องพิจารณาการจัดซื้อให้อยู่ในวงเงินที่จำกัด จัดซื้อในสิ่งที่จำเป็น และเป็นเพียงกระทรวงหนึ่งที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเช่นกัน กระทรวงกลาโหมทำตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และมีการทำตามระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเราได้ย้ำเตือนว่า การจัดซื้อจัดจ้างต่างๆต้องมีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ตลอดเวลา และตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในกระบวนการการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ดังนั้น อย่ามากล่าวอ้างว่า ตนได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้ ตนบอกว่าเงินอะไรก็ตามที่ไม่สุจริต ตนไม่รับทั้งสิ้น

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินกิจการสวัสดิการนั้น กองทัพได้ดำเนินการเรื่องนี้ภายในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 เหมือนกับส่วนราชการอื่นๆ แม้มีคนมองว่ากองทัพบกมีพื้นที่มาก แต่เป็นพื้นที่ที่กองทัพบกได้มอบหมายให้ดูแลไม่ให้มีการบุกรุก การขอรับการอนุมัติหรือขออนุญาตเพื่อขอใช้พื้นที่จึงต้องมีการประสานจากหน่วยงานนั้นๆ มายังกระทรวงกลาโหมที่จะพิจารณาว่าเห็นสมควรหรือไม่ จากนั้นกระทรวงกลาโหมจะพิจารณาร่วมกับกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องวิธีการเข้าใช้พื้นที่ ดังนั้น ตนไม่สามารถอนุญาตให้ใครใช้ได้ทันที นอกจากนี้ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ.2547 กำหนดให้หน่วยราชการสามารถใช้ที่ดินและอาคารสถานที่เพื่อดำเนินการจัดสวัสดิการภายในและกิจการสวัสดิการเชิงธุรกิจได้ โดยการดำเนินจัดสวัสดิการภายในของกองทัพไม่ได้มุ่งหวังแสวงหากำไรหรือสร้างรายได้ แต่มุ่งหวังให้บริการแก่กำลังพลและครอบครัว ซึ่งดูแลข้าราชการชั้นผู้้น้อย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องกิจการหิน สวัสดิการสัมปทานของกองทัพเรือ ซึ่งมีส.ส.บางคนถามว่า ทำไมยังให้ผู้ประกอบการรายเดิมได้รับการต่อสัญญา ทั้งที่ได้ทำผิดสัญญานั้น ตนขอชี้แจงว่า สัญญาที่ได้ทำไว้มีระยะเวลา 5 ปี โดยทำสัญญาแบบปีต่อปี และในสัญญามีการระบุเงื่อนไขการบอกเลิกสัญญาและค่าปรับจากการขาดประโยชน์ที่ผู้ประกอบกิจการไม่สามารถผลิตหินได้ตามสัญญาในอัตราตันละ 38 บาท ทั้งนี้ในปีแรก ผู้ประกอบการไม่สามารถผลิตหินได้ตามสัญญา นับเป็นจำนวน 1 ล้านตันเศษ เป็นมูลค่าการขาดประโยชน์ 40 ล้านบาท ซึ่งกองทัพเรือได้มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการให้ชำระเงินดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการยินยอมจ่ายเงินนี้แบบผ่อนชำระตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 โดยมีการชำระเงินงวดแรกแล้วเป็นเงิน 5 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 35 ล้านบาทมีการขอผ่อนชำระ 34 เดือน เดือนละ 1 ล้านบาทเศษ ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้พยายามปรับปรุงเหมืองและโรงโม่มาตลอด ให้ตรงตามมาตรฐานของกระทรวงอุตสาหกรรม และพ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 อย่างไรก็ตาม ถ้าเราพิจารณาในภาพรวม เห็นว่า การทำสัญญาในปีที่ 2 ทำให้กองทัพเรือได้ประโยชน์มากกว่าใช้วิธีการฟ้องร้อง และผู้ประกอบการได้เริ่มชำระเงินมาแล้ว แต่ถ้ามีีการทำผิดเงื่อนไข กองทัพเรือสามารถฟ้องร้องได้เช่นกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องเรือดำน้ำที่ยังถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์อีกนั้น ตนขอให้แยกแยะระหว่างเรื่องสถานการณ์โรคโควิด-19 เรื่องสุขภาพ กับเรื่องสถานการณ์โลก ความมั่นคงของประเทศ ความมั่นคงในระดับภูมิภาค ทั้งนี้ สิ่งที่มีการวิจารณ์ว่า ทำไมรัฐบาลยังเอาเงินไปซื้ออาวุธนั้น ตนขอชี้แจงว่า การขับเคลื่อนประเทศต้องมีการกำหนดทิศทางหลายด้าน สำหรับการมีเรือดำน้ำเป็นการสร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ พื้นที่ของไทยติดทะเลกว่า 3,000 กิโลเมตร โดยในยามปกติ เรือดำน้ำจะทำหน้าที่ป้องกันและรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของไทย การประมงนอกและในน่านน้ำ รวมถึงทำหน้าที่ตรวจตรากิจการความมั่นคงทางทะเล และการแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ในทะเลและผู้อพยพชาวโรฮีนจา ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2563 เราทราบว่า มีเรือรบจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาค้นหาผู้อพยพชาวโรฮีนจาในน่านน้ำทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นการเข้ามาทางใต้น้ำโดยไม่เกรงใจไทย การมีเรือดำน้ำจะสะท้อนอานุภาพของกองทัพเรือ และแม้อยู่ในยามสงบ แต่การกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หรือเกิดการแย่งชิงเขตแดน สำหรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ เมื่อทำสัญญาแล้ว มีการทยอยจ่ายเงินแบบผ่อนชำระ กว่าจะได้เรือดำน้ำ 1 ลำ ต้องใช้เวลาถึง 6 ปีกว่าจะสำเร็จ และเราต้องส่งคนไปฝึกอบรมเรียนรู้การก่อสร้างและวิธีการใช้งานต่างๆ เพราะทุกคนที่ไปอยู่ในเรือดำน้ำ ต้องเสี่ยงชีวิต ต้องเอาชีวิตไปฝากไว้ในนั้น เพื่อรักษาความสงบให้กับประชาชน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบผลประโยชน์ทางทะเลของไทย 24 ล้านล้านบาท กับราคาเรือดำน้ำนั้น จะเห็นได้ว่า ที่เราลงทุนในเรื่องเรือดำน้ำ คิดเป็น 0.093 เปอร์เซ็นต์ น่าจะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและตอบสนองยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง หลายคนบอกว่า จะซื้อไปทำไม และไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีอาวุธนั้น ตนมองว่าคิดอย่างนั้นไม่ได้ และถ้าคิดแบบนั้น เราจะอยู่กันอย่างไรในวันข้างหน้า และไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตเราจะเป็นอย่างไร ยามศึกเรารบ ยามสงบเราเตรียมพร้อม หลักการมีอยู่แค่นี้ เราต้องพร้อมทั้งขวัญกำลังใจคนและเครื่องมือ อาวุธต่างๆในวันนี้ความรุนแรงและมีความแม่นยำมากขึ้น ถ้าประเทศเราไม่พัฒนาตัวเอง ก็จะอยู่กันไม่ได้ มันมีความเสี่ยงตลอด และขอให้ทุกคนเห็นใจกำลังพลที่เป็นลูกหลานของท่านทั้งนั้น ชีวิตของเขามีความเสี่ยงในยามต้องออกไปสู้รบ ส่วนเรื่องการบาดเจ็บหรือการสูญเสียของกำลังพล ในกรณีที่มีการซ่อมด้วยข้อหาที่ว่าทำผิดวินัยนั้น ตนได้สั่งห้ามทำอย่างนั้นแล้ว และสั่งลงโทษแล้ว รวมถึงให้มีการดูแลเยียวยาแก่ผู้ปกครองของกำลังพลรายนั้นๆ ทั้งหมดนี้เรามีการดูแล ไม่ว่าจะกำลังพลหรือประชาชนทั่วไป

นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน วันนี้มีความรุนแรงเกิดขึ้นในสังคมเป็นจำนวนมาก มีข่าวทุกวันว่า จะมีการชกต่อยกัน เอาปืนมายิงกัน ท่านต้องการให้เกิดขึ้นอย่างนั้นในประเทศไทยหรือ ถ้าเราปล่อยให้มีการยุแหย่ ชินกับการใช้ความรุนแรง การใช้กำลัง หรือการต่อต้านกฎหมาย ตนขอถามว่า แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร วันนี้ทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ มีวิธีที่เหมาะสมในการบังคับใช้กฎหมาย ตนจึงขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย ดังนั้น ขอให้ทุกคนอยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ทุกคนต้องไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น มิฉะนั้นถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น ถ้าใครจะชุมนุมก็ทำได้ โดยอย่าใช้ความรุนแรง

“ใครจะชุมนุมก็ทำไป อย่าใช้ความรุนแรง แต่เราเห็นกันอยู่ว่า เขามีความรุนแรงทุกอย่าง ท่านอย่ามาปฏิเสธผม ส่วนใครทำนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมยังคิดเสมอว่า เขาเป็นคนไทย คนที่อยู่ร่วมชาติเดียวกับผม แต่พวกเขาจะคิดอย่างนั้นหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แผ่นดินนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ใครมีเจตนาดีหรือเจตนาไม่ดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านรู้หมด ผมนับถือศาสนาพุทธ ผมจึงเชื่อมั่นเรื่องนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image