นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป และบริการหลังการขายภายใต้ตราสินค้า ‘ตราเพชร’ เปิดเผยภาพรวมการดำเนินงานในปี 2563 ว่าบริษัทมีรายได้รวม 4,409 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากปัจจัยลบการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ในประเทศไทย แต่มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่ 950 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมรายการพิเศษที่เกิดจากการขายที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์) 547 ล้านบาท โดยหากรวมกำไรพิเศษจะมีกำไรสุทธิทั้งปี 557 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการบริหารความเสี่ยงและปรับตัวสอดรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ด้วยผลิตภัณฑ์และช่องทางการจัดจำหน่ายหลากหลาย โดยช่องทางจำหน่ายหลัก ได้แก่ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ทำให้สัดส่วนการขายเพิ่มขึ้นเป็น 57% จากเดิมอยู่ที่ 50% ของยอดขายรวม ขณะที่การบริหาร Product Mix สามารถผลักดันอัตราการทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 29.05% สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยเดิมที่วางไว้ 25-27%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีหลัง 2563 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2563) ในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น ตามนโยบายบริษัท เป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 9 มีนาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2563 (มกราคม-มิถุนายน 2563) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น บริษัทจะจ่ายเงินปันผลการดำเนินงานในปี 2563 ในอัตรารวม 0.42 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นการจ่ายเงินปันผลสูงสุดในรอบ 5 ปี
นายสาธิตกล่าวถึงการดำเนินงานในปีนี้ว่า ตั้งเป้าหมายเติบโต 5% หลังเริ่มเดินเครื่องจักร NT-11 เชิงพาณิชย์อีก 55,000 ตัน ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในไลน์การผลิตสินค้าทดแทนไม้และการบริหารจัดการด้านต้นทุน รวมถึงขีดความสามารถด้านการแข่งขันที่ดีขึ้น โดยไลน์การผลิตดังกล่าว DRT สามารถผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายด้านขนาดผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มโอกาสการขายสินค้าในจังหวะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น
