ดีแทค เปิด 3 บริการใหม่เอาใจแรงงานเมียนมา-กัมพูชา แอพพ์ภาษาพม่า-แขมร์ ช่วยจ่ายค่ายา เน็ตเต็มสปีด

นายฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายแรกในประเทศไทยที่มองเห็นโอกาสในกลุ่มชาวเมียนมา และกัมพูชา ซึ่งเป็นกลุ่มเข้ามาทำงานกลุ่มใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ หรืออินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายสัญญาณคุณภาพมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 หรือเปิดให้บริการมาครบ 10 ปี ให้กลุ่มนี้สามารถเชื่อมต่อบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในประเทศไทย ผ่านช่องทางทั้งโทรศัพท์มือถือ หรือช่องทางออฟไลน์อื่นๆ ด้วยการสื่อสารที่เข้าใจง่ายในภาษาพม่า และภาษากัมพูชา

นายฮาว ริเร็น กล่าวว่า ล่าสุดดีแทคจัดทำแคมเปญ ‘ยิ่งอยู่นาน ยิ่งรักกัน’ ฉลองครบรอบ 10 ปี ด้วย 3 บริการใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่เติมเต็มช่องว่างดิจิทัลและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ได้แก่ 1.ดีแทคแอพพ์ ภาษาพม่า และพร้อมเปิดบริการภาษากัมพูชาภายในปีนี้ เพื่อสร้างโอกาสและเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้การใช้บริการดิจิทัล ให้กับกลุ่มชาวเมียนมา และกัมพูชา ซึ่งลูกค้าจะได้รับความสะดวก รวดเร็วในการทำธุรกรรม ที่สามารถตรวจสอบการใช้งานได้ตลอดเวลา ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ได้มีโอกาสเข้าถึงและมีความเท่าเทียมกับคนไทยในการใช้ดิจิทัล จากออฟไลน์มาสู่ออนไลน์ และเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคต

2.แพคเกจเสริมตอบโจทย์ช่วงโควิด-19 เน็ตเต็มสปีด 1GB เพียง 10 บาท/วัน และโทรกลับพม่า และกัมพูชาผ่าน 00400 ครบ 5 นาที ฟรีอีก 5 นาที

และ 3.ขยายบริการใจดีช่วยค่ายา ให้เข้าถึงกลุ่มพี่น้องเมียนมา และกัมพูชา ให้สามารถดูแลรักษาสุขภาพในราคาประหยัด จากร้านยาคุณภาพที่มีใบอนุญาต และมีเภสัชกรประจำตลอดเวลาเปิดร้าน ได้สะดวกในประเทศไทย สำหรับพี่น้องเมียนมา และกัมพูชา ทั้งระบบเติมเงิน และรายเดือน สามารถซื้อคูปองช่วยจ่ายค่ายาในราคา 59 บาท และ 89 บาท สามารถนำไปซื้อยาที่ร้านขายยาที่ร่วมโครงการได้ในมูลค่าสูงสุด 100 และ 200 บาท เพียงโชว์ข้อความ SMS จากโทรศัพท์มือถือที่ร้านขายยา ก็สามารถรับยากลับบ้านได้เลย

Advertisement

นายฮาว ริเร็น กล่าวว่า จากข้อมูลการใช้งานของกลุ่มชาวเมียนมา และกัมพูชา ในไทยบนเครือข่ายดีแทค พบว่าแรงงานกลุ่มนี้ใช้มือถือ เพื่อประโยชน์หลักในการสื่อสารและความบันเทิง โดยมีความนิยมใช้งานดิจิทัลผ่านทางโซเชียลมีเดียใน 5 อันดับแรก คือ 1.Facebook 2.YouTube 3.LINE 4. Messenger 5.Tik Tok โดยในปี 2563 แรงงานข้ามชาติที่เป็นลูกค้าดีแทค มีปริมาณการใช้งานดาต้า ต่อวันต่อคน ในอัตราที่เติบโตขึ้นถึง 15% เทียบกับการใช้งานในปี 2562

“ดีแทคจึงออกแบบสินค้าและบริการเสริมที่ไม่เคยมีใครทำให้ลูกค้ากลุ่มแรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้มาก่อน เพื่อตอบโจทย์คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยมีสินค้าบริการและกิจกรรมที่สำคัญทางการตลาด 10 ปีที่ผ่านมา คือเป็นเครือข่ายมือถือรายแรกในประเทศไทยที่ออก ซิมภาษาพม่า และตามมาด้วย ซิมภาษากัมพูชา มี Call Center ให้บริการลูกค้าด้วยพนักงานชาวเมียนมา และกัมพูชา มี Facebook เพจภาษาพม่า และกัมพูชา ที่ทำขึ้นเพื่อสื่อสารกับคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยมี ลูกค้าชาวเมียนมา และ ชาวกัมพูชา ติดตามบนออนไลน์แพลตฟอร์มมากที่สุด ด้วยจำนวนผู้ติดตามชาวเมียนมาบน Facebook dtac Myanmar มากกว่า 1.8 ล้านคน และจำนวนผู้ติดตามชาวกัมพูชา บน Facebook dtac Cambodia มากกว่า 2 แสนคน และยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ได้นำศิลปินแร็ปเปอร์ นายแบบ และนักแสดงระดับแถวหน้าของเมียนมา เช่น ไซไซ คำเล้ง (Sai Sai Kham Leng) มาร่วมโฆษณาประชาสัมพันธ์กิจกรรมดีแทค เมียนมา ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กช่องทางต่างๆ ที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจ และยกระดับคุณภาพชีวิต ในช่วงเวลาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ทำให้ดีแทคสามารถเอาชนะใจ และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง ของชาวเมียนมา และกัมพูชาในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 80%”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image