เปิดเงื่อนไขคุมประพฤติ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ หลังติดกำไลอีเอ็ม 14 เดือน

เปิดเงื่อนไขคุมประพฤติ ‘สรยุทธ สุทัศนะจินดา’ หลังติดกำไลอีเอ็ม 14 เดือน

จากกรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง อายุ 55 ปี ผู้ต้องขังในคดีฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้รับการพิจารณาพักโทษโดยเหตุพิเศษ และจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 14 มี.ค. เวลา 09.00 น. โดยนายสรยุทธจะถูกนำตัวไปสวมกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (อีเอ็ม) ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร เขต 7 และจะต้องติดกำไล EM เป็นระยะเวลา 14 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.64-20 พ.ค.65 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ก.ค.66 รวม 2 ปี 4 เดือน และสามารถประกอบอาชีพสุจริตได้

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม รายงานแจ้งว่า สำหรับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะมีน้องสาวเป็นผู้อุปการะ ตามขั้นตอนการคุมประพฤติ โดยพักอาศัยอยู่ในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 7 โดยสำนักงานคุมประพฤติได้มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติฯ เป็นเจ้าของคดี หลังจากนั้นจะต้องมารายงานตัวที่สำนักงานคุมประพฤติ

ซึ่งทางพนักงานคุมประพฤติจะออกสมุดนัดรายงานตัวให้ พนักงานคุมประพฤติจะชี้แจงเงื่อนไขการปฏิบัติตัวในระหว่างการคุมความประพฤติ และเงื่อนไขในการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว

Advertisement

ทั้งนี้ ยังต้องมีการปฐมนิเทศผู้อุปการะซึ่งเป็นน้องสาว ตามที่มีการแจ้งไว้ รวมถึงการติดตามควบคุม พฤติกรรมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยการปฏิบัติตามเงื่อนไข การคุมความประพฤติและเงื่อนไขในการติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว

สำหรับเงื่อนไขของผู้ถูกคุมประพฤติ ที่จะต้องกระทำภายหลังได้รับการปล่อยตัว มีดังนี้คือ

1.รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ
2.พักอาศัยอยู่กับผู้อุปการะตามสถานที่ที่แจ้ง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นให้ยื่นคำร้องต่อพนักงานคุมประพฤติในท้องที่เดิมและต้องได้รับการอนุญาตก่อน
3.ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำตักเตือนของพนักงานคุมประพฤติ และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการแก้ไข ฟื้นฟูตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมคุมประพฤติกำหนด
4.ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ หากมีการฝ่าฝืนและถูกลงโทษโดยเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ ไม่ว่าจะเป็นโทษสถานใด นักโทษเด็ดขาดหรือผู้อุปการะต้องแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติทราบทุกครั้ง
5.ประกอบอาชีพสุจริต
6.เงื่อนไขอื่นตามที่คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยพักการลงโทษกำหนด

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรยุทธถือเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อช่วงเดือน ส.ค.63 และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.63 กำหนดโทษหลังสุด 3 ปี 6 เดือน 20 วัน แต่จำคุกมาแล้ว 1 ปี 2 เดือน 6 วัน คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน 14 วัน จากโทษเดิม 6 ปี 24 เดือน นายสรยุทธจึงถือเป็นนักโทษที่รับโทษจำคุกมาแล้วระยะหนึ่ง และจะมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์การพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ

นายสรยุทธ และพวกถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีบริษัทไร่ส้ม แก้ไขค่าโฆษณาของ อสมท เสียหายกว่า 138 ล้านบาท เมื่อปี 2558 ซึ่งนายสรยุทธสู้คดีถึง 3 ศาล โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2559 ให้จำคุก 6 กระทงๆ ละ 3 ปี 4 เดือน

รวมจำคุกคนละ 20 ปี แต่ลดโทษให้เหลือจำคุก 13 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ถัดมาปีกว่า ศาลอุทธรณ์ ก็มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2560 และศาลฎีกา มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำคุกนายสรยุทธ กระทงละ 2 ปี 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี และลดโทษให้เหลือจำคุก 6 ปี 24 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image