นักเขียนราชวงศ์มอง พิธีพระศพเจ้าชายฟิลิป ยังเร็วไปที่จะเห็น เจ้าชายวิลเลียม-เจ้าชายแฮร์รี คืนดีกัน
เอพี รายงานว่า พระราชพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ พระสวามีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งจะมีขึ้นวันเสาร์ที่ 17 เมษายนนี้ ที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์ หลังเจ้าชายฟิลิป สิ้นพระชนม์เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน ด้วยพระชนมายุ 99 พรรษา ซึ่ง นายจอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคยให้สัมภาษณ์บีบีซี ก่อนหน้านี้ว่า อาจเป็นโอกาสที่เจ้าชายวิลเลียม พระชันษา 38 และ เจ้าชายแฮร์รี พระอนุชา พระชันษา 36 จะปรับความเข้าใจกัน หลังจากพระเชษฐา พระอนุชาคู่นี้ทรงห่างเหิน และมีเรื่องบาดหมางใจ หลังจากเจ้าชายแฮร์รี ย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หรือ เมแกน มาร์เคิล พระชายา และ อาร์ชี พระโอรส แล้วยังการให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ ของเจ้าชายแฮร์รี พระชายาที่กลายเป็นประเด็นฮือฮาไปทั่วโลก และเพิ่มร้อยราวในความสัมพันธ์ของราชวงศ์
นายจอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้สัมภาษณ์บีบีซีว่า ” ทั้งสองพระองค์ต่างมีความรู้สึกร่วมกันตอนนี้ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระอัยกา ผมหวังอย่างยิ่งว่านี่จะเป็นโอกาสให้ทั้งสองประสานรอยร้าวต่างๆที่เกิดขึ้น”
แต่แองเจลา เลวิน ซึ่งเคยเขียนประวัติเจ้าชายแฮร์รี บอกกับเอพีว่า อาจไม่ง่าย และเร็วขนาดนั้น โดยว่า นี่ไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่สมาชิกราชวงศ์จะมาพูดเรื่องส่วนพระองค์ ขณะที่กำลังจะมีพระราชพิธีพระศพ และอาจยังไม่ใช่เวลาที่ใช่เช่นกัน ถ้าหากเจ้าชายแฮร์รี จะรีบเสด็จกลับสหรัฐอเมริกาหลังจากเสร็จพระราชพิธีพระศพเจ้าชายฟิลิปฯ
“ฉันคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ที่มาพูดถึงเรื่องส่วนตัวก่อนพระราชพิธีพระศพ และฉันก็นึกภาพไม่ออกเช่นกันที่เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รีจะเปิดใจ และโผเข้าสวมกอดกัน ในเมื่อเกิดเรื่องราวมากมายในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และเจ้าชายวิลเลียมต้องแบกรับความรับผิดชอบต่างๆมากกว่า ”
เพนนี จูเนอร์ นักเขียนประวัติราชวงศ์อีกราย ให้ความเห็นว่า ความเสียหายที่เกิดจากการให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องสีผิวของอาร์ชี เป็นประเด็นที่เธอมองว่า “ยากจะให้อภัย” และคงยากที่เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รีจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“เจ้าชายแฮร์รีไม่ให้เกียรติพระบิดา นำเรื่องส่วนตัวมาพูดให้ชาวโลกรู้ มีหลายเรื่องที่ฟังแล้วต้องกลั่นกรอง ” จูเนอร์ บอกว่าเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี ต่างเป็น “คนหัวแข็ง”ด้วยกันทั้งคู่ และว่า “เจ้าชายวิลเลียมจะต้องเจ็บปวดมากและโกรธพระอนุชาที่ให้สัมภาษณ์เช่นนั้น ”
ขณะที่ เอ็ด โอเวนส์ นักประวัติศาสตร์ ผู้เขียนหนังสือ “The Family Firm: Monarchy, Mass Media and the British Public 1932-1953 ” ก็เห็นด้วยว่า ยังเร็วเกินไปที่จะเห็นราชวงศ์อังกฤษกลับมาคืนดี ปรับความเข้าใจกัน โดยว่า “ผมไม่คิดว่า จะมีการปรองดอง หรือกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์Megxit ในเร็ววันนี้ ”
อย่างไรก็ตาม แองเจลา เลวิน และ เพนนี จูเนอร์ ต่างเชื่อว่า ด้วยสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแฮร์รี และ วันเวลาจะช่วยประสานรอยร้าวของทั้งสองได้ในวันหนึ่ง
“เจ้าชายแฮร์รี เคยบอกฉัน ตอนฉันมีโอกาสสัมภาษณ์พระองค์ เพื่อทำหนังสือประวัติเจ้าชายแฮร์รีว่า เจ้าชายวิลเลียมเป็นคนเดียวที่พระองค์ทรงเชื่อใจ และเป็นคนเดียวที่ทรงสามารถพูดทุกเรื่องด้วยได้ “
