“จุรินทร์”เปรยส่งออกมีค.พลิกโต 8% สั่งลุยจับคู่ออนไลน์ ตั้งเป้าทั้งปี1.6 หมื่นล้าน

ที่สถาบันพัฒนา ผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ (ถนนรัชดาภิเษก) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเป็นประธานมอบนโยบายให้กับทีม Salesman จังหวัดในรูปแบบ ออนไลน์ผ่านระบบ Webinar ภายใต้โครงการฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการ Salesman จังหวัด Go-inter ว่า ประเด็นที่หนึ่ง เรื่องการส่งออกของประเทศไทย ถือเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนจีดีพี หรือ ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ และมีความเห็นตรงกันว่าการส่งออกของไทย น่าจะพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว และกำลังทะยานขึ้น ดูจากตัวเลขการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่ประเทศเผชิญกับวิกฤตโควิด สงครามการค้า และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ตัวเลขการส่งออกต่ำสุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ติดลบ 22% เดือนมิถุนายนติดลบ 23% แต่หลังจากนั้นติดลบน้อยลงเป็นลำดับ เดือนกรกฎาคมติดลบเหลือ 11 % เดือนธันวาคม กลับมาบวก 4.7% แม้ช่วง 2 เดือนแรกปี 2564 จะยังติดลบ แต่เมื่อหักทองคำ ยุทธปัจจัย และน้ำมันออก ตัวเลขเป็นบวก สะท้อนภาคเศรษฐกิจแท้จริงดีขึ้นกว่าปีก่อน โดยคาดว่าส่งออกเดือนมีนาคม ที่จะแถลงในวันที่ 23 เมษายนนี้ น่าจะกลับมาบวกไม่น้อยกว่า 8% สะท้อนสัญญาณส่งออกดีขึ้น เริ่มทะยานขึ้นเป็นลำดับ

ทั้งนี้ สินค้าสำคัญเป็นตัวขับเคลื่อนการส่งออก ประกอบด้วย สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร เครื่องใช้ในบ้าน และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ผลิตผลทางการเกษตรที่ยังมีอนาคต โดยเฉพาะอาหาร ทั้งผลไม้สด ผลไม้แปรรูป และอาหารกระป๋อง มีการขยายตัวที่ดี ในด้านตลาดส่งออกสำคัญที่มีศักยภาพและขยายตัวดี คือ สหรัฐ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นอาเซียน ซีแอลเอ็มวี และตลาดในทวีปออสเตรเลีย แม้การท่องเที่ยวจะติดปัญหาอุปสรรค การส่งออกยังเดินหน้าต่อไปได้ จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญต่อไป ภายใต้ความร่วมมือทำงานหนักระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนทั้งทีมเซลล์แมนจังหวัดและทีมเซลล์แมนประเทศ

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สอง เรื่องไทม์ไลน์การจับคู่ธุรกิจด้วยระบบออนไลน์ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมีผลช่วยให้ยอดตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น หลังวิกฤตโควิดได้มีการปรับรูปแบบเจรจาเพื่อการส่งออกเป็นระบบออนไลน์มากขึ้น และเกือบเต็มรูปแบบ โดยกระทรวงพาณิชย์ สามารถผลิตนวัตกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ให้เกิดขึ้นหลายรูปแบบเช่น ไฮบริด ส่งสินค้าจริงไปยังประเทศปลายทางและเจรจาซื้อขายกันด้วยระบบออนไลน์ (Mirror Mirror) และรูปแบบจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (OBM)โดยทีมเซลล์แมนประเทศเจรจาและจัดพื้นที่ให้มีการเจรจาผ่านระบบออนไลน์ ผู้ส่งออกของไทยสามารถเจรจาทำสัญญาซื้อขายเจรจาจับคู่ ปี 2563 สามารถทำยอดขายเฉพาะระบบ OBM 15,000 ล้านบาท และปี 2564 ตั้งเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท กิจกรรม 3เดือนแรก 2564 ไตรมาสแรกดำเนินการจับคู่เจรจาธุรกิจ 33 ครั้งได้
992 คู่ สามารถขายสินค้าให้กับผู้ส่งออกของไทย 325 ราย มีผู้นำเข้าจากต่างประเทศมาซื้อสินค้า 345 ราย ยอดซื้อขายไตรมาสแรกปีนี้ 5,280 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่เหลือกำหนดแผนงานไว้ชัดเจนแล้ว กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าแม้ในภาวะวิกฤตโควิดเพื่อนำรายได้เข้าประเทศในทุกช่องทาง กำหนดเป้าหมายจัดให้มีการจับคู่ 85 ครั้ง เฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ตั้งเป้าจับคู่ไม่ต่ำกว่า 2,500 คู่ และมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,600 ล้านบาท อาทิ เดือนพฤษภาคม ทำกิจกรรมกับห้าง Walmart ของสหรัฐ และแอฟริกาใต้ จับคู่เพื่อขายสินค้าฮาลาล ในเดือนกรกฎาคม

” กิจกรรมในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยทำยอดการเจรจาจับคู่ซื้อขายระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ เปิดพื้นที่ให้กับ SMEs และ Micro SMEs มาเจรจาจับคู่ในระบบ OBM ของกระทรวงพาณิชย์ได้ด้วย ผ่านทีมเซลล์แมนจังหวัด เซลล์แมนประเทศ อย่างกิจกรรมเซลล์แมนจังหวัด Go-inter โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ร่วมกับทีมเซลล์แมนจังหวัด ทั้งพาณิชย์จังหวัด หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาเกษตรกร Biz Club และกลุ่มอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเป็นแม่ไก่นำความรู้ไปถ่ายทอดกับผู้ประกอบการต่อไป
จากนั้นเชื่อมโยงกับผู้นำเข้าในต่างประเทศ เพิ่มยอดการส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ” นายจุรินทร์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image