สถานีคิดเลขที่ 12 : กรณี ‘เพนกวิน’ โดย ปราปต์ บุนปาน

คู่ขนานไปกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ที่รุนแรง ในอีกด้านหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยก็มุ่งความสนใจไปยังกรณีการประท้วงอดอาหารระหว่างการถูกควบคุมตัวในเรือนจำของ “เพนกวิน” หรือ “พริษฐ์ ชิวารักษ์”

ซึ่งไม่เพียงก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง หากยังนำไปสู่การตั้งคำถาม ความรู้สึกไม่เชื่อมั่น และ/หรือการพยายามต่อต้านท้าทายความชอบธรรมของสถาบันตุลาการ อย่างไม่เคยมีก่อน (และน่าวิตก)

ผศ.ดร.กนกรัตน์ เลิศชูสกุล แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการที่ศึกษาขบวนการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ ในสังคมไทยร่วมสมัยมาโดยต่อเนื่อง ตั้งข้อสังเกตผ่านเพจเฟซบุ๊ก “The Politics ข่าวบ้านการเมือง” ว่า

กรณี “เพนกวิน” คือตัวอย่างการปะทะกันทางความคิดระหว่างคนสองรุ่น ได้แก่ “คนรุ่นสงครามเย็น” ซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ กับ “คนรุ่นใหม่” หรือ “คนรุ่นโบขาว” ที่กำลังส่งสารไปถึงผู้ใหญ่ว่า โลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

Advertisement

ดังรายละเอียดที่ชวนขบคิดต่อไปนี้

“สิ่งที่คุณพริษฐ์ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้องการปฏิรูปในทุกมิติ หรือการยอมที่จะใช้ชีวิตตัวเองเป็นเครื่องมือในการต่อรองผลักดันให้คนรุ่นสงครามเย็นยอมรับการเปลี่ยนแปลง ดิฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เห็นภาพความแตกต่างของคนสองรุ่นนี้อย่างชัดเจนมาก

“ในขณะที่คนอย่างพลเอกประยุทธ์ กระบวนการยุติธรรม ระบบราชการของรัฐ มองคนอย่างคุณเพนกวินเป็นภัยคุกคาม เป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมอยู่ตามระบบ เป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมฟังผู้ใหญ่ แล้ววิธีการจัดการกับเขาก็คือการทำให้เขาเงียบ และเชื่อว่าวิธีการแบบนี้มันจะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงได้

Advertisement

“ในขณะที่คนรุ่นคุณพริษฐ์ คือคุณพริษฐ์-เพนกวิน เป็นตัวแทนของคนอีกรุ่นหนึ่ง ที่ยอมไม่ได้ต่อการที่โลกนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะทำให้ชีวิตเด็ก 40 กว่าปีของเขาที่เหลือนี่สามารถอยู่รอดได้

“สิ่งที่คุณเพนกวินทำเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เรารู้ว่า อะไรคือสปิริตหรือจิตวิญญาณความเชื่อของคนอีกรุ่นหนึ่ง ที่เขาไม่ได้ทำเพียงเพื่อต่อรองอำนาจทางการเมือง ไม่ได้ทำเพียงเพื่อกดดันรัฐบาล แต่เขากำลังบอกจริงๆ ว่า ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตาย หรือเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ มันไม่สำคัญเท่ากับการที่เขาอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง

“แม้เขาจะเลิกอดอาหาร มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ถ้าสังคมนี้มันไม่เปลี่ยนแปลง การไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้อาจจะไม่แตกต่างกันมากก็ได้ ซึ่งดิฉันคิดว่านี่มันเป็นวิธีคิดของคนอีกรุ่นหนึ่ง ที่มันแตกต่างกันมาก

“เพราะฉะนั้น เมื่อมันไม่เข้าใจกัน ไม่เข้าใจฐานคิดแบบนี้ วิธีการของรัฐไทยที่ยังทำต่อคนที่คิดแตกต่าง ก็ยังคงดำเนินไปแบบนี้

“เพราะฉะนั้น เมื่อถามว่ารัฐไทยเมื่อเห็นคุณพริษฐ์อดอาหารและอาจจะนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยในชีวิต คิดว่าคนรุ่นสงครามเย็นในกระทรวง ทบวง กรม ในรัฐบาล เข้าใจและยอมไหม?

“ดิฉันยังไม่เห็นวี่แววของการยอมทำความเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง แต่นี่คือชีวิตของคนอีกรุ่นหนึ่ง”

ปราปต์ บุนปาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image