เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต.เสนอขายโทเคนฯ สิริ ฮับ มองอนาคตเอื้อรายย่อยเข้าลงทุนสร้างผลตอบแทนได้

นายอัฎฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยขั้นตอนขณะนี้คือยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขาย (ไฟลิ่ง) โทเคนดิจิทัลต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุมัติการออกเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน สิริ ฮับ (SIRIHUB Token)’ ซึ่งเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์อ้างอิง ซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้นมีกระแสรายรับเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและมีกลไกการบริหารจัดการที่โปร่งใสและปลอดภัยเพื่อนำมาจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่ผู้ถือโทเคนตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน

“กระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มเป็นที่สนใจอย่างมากในประเทศไทย สำหรับการลงทุนในโทเคนดิจิทัลเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในต่างประเทศ แต่ยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเมืองไทย” นายอัฎฐ์กล่าว

โทเคนดิจิทัลในปัจจุบันมีหลายประเภท แต่ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและอาจมีผลตอบแทนคือ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) โดยโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่อ้างอิงทรัพย์สินจะมีอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิงหรืออ้างอิงกระแสรายรับจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Asset-backed) ซึ่งสินทรัพย์ที่อ้างอิงนั้นอาจเป็นอสังหาริมทรัพย์ เป็นหุ้นของบริษัทที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 75% ของสิทธิออกเสียงของบริษัท หรือสิทธิการเช่าในอสังหาริมทรัพย์นั้น โดยอสังหาริมทรัพย์ที่อ้างอิงต้องสร้างแล้วเสร็จ 100% และเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าโครงการ หรือไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินนั้นจะมี ทรัสตี (Trustee) ดูแลเก็บรักษาทรัพย์สินและติดตามการจัดการทรัพย์สินให้เป็นไปตามหนังสือชี้ชวนเพื่อให้ผู้ถือโทเคนได้รับสิทธิตามที่ระบุในหนังสือชี้ชวน

นายอัฎฐ์กล่าวว่า หนึ่งในทรัพย์สินที่น่าเชื่อถือในการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนมากที่สุดก็คืออสังหาริมทรัพย์ เรียกโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์หรือกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิงว่า Real Estate-backed ICO ซึ่งโทเคนประเภทนี้เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เช่นกรณีการแปลงมูลค่าของโรงแรมหรู เดอะเซนต์รีจิส แอสเพน รีสอร์ท (The St.Regis Aspen Resort) ในรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐ และเสนอขายในรูปแบบโทเคนชื่อว่า แอสเพนคอยน์ (Aspen Coin) ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถระดมทุนจากผู้ซื้อโทเคนได้มากถึง 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 550 ล้านบาท)

Advertisement

นายอัฎฐ์กล่าวว่า หลักการลงทุนใน Real Estate-backed ICO จะมีความคล้ายคลึงกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) แต่ความแตกต่างคือกอง REITs จะเป็นการมอบเงินให้ผู้ดูแลทรัสต์หรือทรัสตีนำไปลงทุนในธุรกิจที่ทำข้อตกลงกันไว้ อาจจะมีการซื้อ ขาย เช่า ตามแต่ผู้จัดการกองทรัสต์จะดำเนินการ และรับส่วนแบ่งผลกำไรจากการลงทุนนั้นซึ่งมีลักษณะเป็น Active Trust ขณะที่ Real Estate-backed ICO คือการลงทุนในทรัพย์สินที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในหนังสือชี้ชวน โดยทรัสตีมีหน้าที่ติดตามดูแลการบริหารจัดการทรัพย์สินของผู้ออกโทเคนดิจิทัลให้เป็นไปตามที่กำหนดในหนังสือชี้ชวนเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะเป็น Passive Trust และหากเปรียบเทียบระหว่างโทเคนดิจิทัลกับเงินคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) การลงทุนกับคอยน์ หรือเงินคริปโทเคอร์เรนซีสกุลต่างๆ ก็คล้ายกับการซื้อขายสกุลเงินตามปกติ มีราคาขึ้นลงตามความผันผวนในตลาดคริปโทฯ และมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบถึงค่าเงินสกุลนั้นๆ ส่วนการลงทุนโทเคนดิจิทัลอาจเปรียบได้กับการลงทุนในหลักทรัพย์บางประเภท ผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับผลตอบแทนจากส่วนแบ่งรายได้ตามอัตราที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน และยังสามารถซื้อขายโทเคนดังกล่าวในตลาดรอง ซึ่งอาจได้กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อขาย โดยราคาโทเคนจะขึ้นลงตามราคาตลาด (market price) ซึ่งการซื้อขายโทเคนดิจิทัลจะทำได้ง่ายกว่าการซื้อขายหุ้น สามารถทำผ่านแอพพลิเคชั่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องรอเวลาตลาดเปิดทำการ อีกทั้งมีระบบยืนยันตัวตนของลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน การติดสินบน หรือคดีทุจริตใดๆ องค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้การซื้อขายโทเคนดิจิทัลสะดวก ปลอดภัย และแทบไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเท่าเทียมกัน

นายอัฎฐ์ เชื่อมั่นว่า ในอนาคตอันใกล้ จะสามารถแปลงมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ทั้งโรงแรม บ้าน คอนโด หรือแม้กระทั่งที่ดินที่มีมูลค่าสูงถึงหลักพันล้าน ให้เป็นโทเคนดิจิทัลและเปิดให้นักลงทุนทุกระดับเข้ามาลงทุนร่วมกันได้ ซึ่งจะเอื้อให้นักลงทุนรายย่อยที่มีเงินลงทุนจำกัดก็สามารถเป็นเจ้าของร่วมในอสังหาริมทรัพย์ราคาหลายพันล้านบาทได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image