ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ยกให้ ‘เอสทีที จีดีซี ประเทศไทย’ เป็นบริษัทมาแรงธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ยกให้ ‘เอสทีที จีดีซี ประเทศไทย’ เป็นบริษัทมาแรงธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์

 

 

เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ STT GDC Thailand ผู้นำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “Company to Watch” หรือ “บริษัทที่น่าจับตามอง” จากรายงานตลาดการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยประจำปี 2564 (Thailand Data Centre Colocation Services Market Report 2021) โดย ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรที่ปรึกษาและงานวิจัยทางธุรกิจระดับโลก

รายงานของ ฟรอส แอนด์ ซัลลิแวน ได้เน้นย้ำถึงจุดแข็ง 3 ด้านของ STT GDC Thailand ประการแรกคือการเชื่อมต่อที่เป็นกลางที่เปิดกว้างในการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการทุกค่าย (Carrier-neutrality) และที่ตั้งในทำเลหัวหมาก ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้บริการจะได้รับประโยชน์จากการรับ-ส่งข้อมูลที่มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น (Low-latency) จากผู้ให้บริการคลาวด์ และผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ ที่กำลังมองหาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้

Advertisement

ประการที่สอง การออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์และระบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศของ STT GDC Thailand สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาทิ LEED Gold, TIA-942 Rated-3, Uptime Institute Tier III ในด้านการออกแบบและก่อสร้าง, มาตรฐาน ISO27001 และมาตรฐาน Threat and Vulnerability Risk Assessment (TVRA) ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เมื่อผสานกับประสบการณ์ที่สั่งสมในการดำเนินงานดาต้าเซ็นเตอร์ในตลาดที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ STT GDC Thailand เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่จะช่วยในการสร้างธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ประการสุดท้าย STT GDC Thailand สามารถให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นบริการเช่าพื้นที่เพื่อติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร (rack colocation) ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่สำหรับผู้เช่าที่มีโซลูชั่นปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการทางธุรกิจ (single-tenant build-to-suit solutions) ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งลูกค้าองค์กร และลูกค้าระดับไฮเปอร์สเกล

“ประเทศไทยมีความต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และดาต้าเซ็นเตอร์มีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งจุดเด่นของ STT GDC Thailand อยู่ที่ทำเลยุทธศาสตร์ และความสามารถในการปรับขยายธุรกิจที่สอดรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกอุตสาหกรรม และเมื่อพิจารณาจากมาตรฐานการรับรองที่เป็นเลิศในอุตสาหกรรมนี้แล้ว ยิ่งทำให้คุณค่าของแบรนด์ STT GDC Thailand แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนได้รับการยอมรับให้เป็นผู้ให้บริการที่น่าจับตามองที่สุด (Company to Watch) ในระบบนิเวศน์การให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์” นายนิชฌาล โครานา ผู้อำนวยการอาวุโสแห่ง ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าว

Advertisement

นายศุภรัฒศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การได้รับการยอมรับในฐานะ ‘Company to Watch’ สะท้อนให้เห็นวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของประเทศไทย และความมุ่งมั่นของ STT GDC Thailand ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาด ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจที่ต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดไฮเปอร์สเกล ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ต่างชาตินั้น ต่างก็มองหาผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์แผนการขยายธุรกิจของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันต้องมั่นใจถึงความเชี่ยวชาญในมาตรฐานการออกแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานดาต้าเซ็นเตอร์ ดังนั้น การได้รับการยอมรับจาก ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ในครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพในบริการดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา และบทบาทที่เรามีในการช่วยยกระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย”

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน คาดการณ์ว่า ตลาดการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 23.5% ต่อปี โดยปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้มาจากผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ผลิตสื่อและคอนเทนต์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งความต้องการด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคผลักดันให้เกิดความต้องการในการจัดเก็บข้อมูล และการประมวลผลเป็นอันมาก

 

 

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image