ไทยสร้างไทยย้ำจุดยืนแก้ รธน. หนุนทำประชามติตั้ง ส.ส.ร. คืนอำนาจให้ ปชช.

‘ไทยสร้างไทย’ ย้ำจุดยืนแก้ไข รธน.ต้องฉบับ ปชช. ชี้เป็นทางออกเดียวช่วยประเทศพ้นวิกฤตความขัดแย้ง ‘สุดารัตน์’ ลั่น ขอทวงคำสัญญาพรรคการเมืองช่วงหาเสียง เหน็บอย่าสักแต่พูดเพื่อให้คะแนน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน ณ ที่ทำการชั่วคราว พรรคไทยสร้างไทย ซอยลาดปลาเค้า 60 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำแถลงกรณีประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 23-24 มิถุนายน ว่าตนในฐานะที่เป็นผู้ผลักดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่การเลือกตั้งปี’62 และในฐานะผู้นำการเลือกตั้งขณะนั้น ได้ออกไปพบประชาชนทุกเวทีปราศรัยและให้คำมั่นว่าหลังการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล พวกเราจะยืนในสัญญาประชาคมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นผลพวงของเผด็จการ ร่างรัฐธรรมนูญมาเพื่อสืบทอดอำนาจ และมีกลไกทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้ ดังนั้น สิ่งแรกที่จะทำคือทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ทั้งนี้ ผลของวิกฤตครั้งนี้ไม่ได้อยู่เพียงแค่การเมือง ยังส่งผลสภาพเศรษฐกิจ สังคม ความขัดแย้งและความแตกแยก ดังนั้น ทางออกทางเดียวที่จะออกจากวิกฤตนี้คือการให้ประชาชนมีอำนาจในการเขียนรัฐธรรมนูญของตัวเอง ตามที่ตนเคยยืนยันตั้งแต่ปี’62 ในการรณรงค์เลือกตั้ง และตนจำได้ว่าทุกพรรคบอกว่าจะเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเขียนรัฐธรรมนูญ

“วันนี้ดิฉันขอทวงคำมั่นของแต่ละพรรคว่าทรยศประชาชนหรือไม่ ลืมคำมั่นสัญญา ขอเพียงสักแต่พูดเพื่อให้ได้คะแนน วันนี้จุดยืนของไทยสร้างไทยเราไม่ทรยศประชาชน สิ่งที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คืนอำนาจให้ประชาชน เรายังเดินหน้าต่อไป และขอทวงคำมั่น คำสัญญา จิตสำนึกทุกพรรคการเมืองที่จะพิจารณารัฐธรรมนูญสัปดาห์นี้ว่า มีประชาชนอยู่ในหัวใจหรือไม่ เพราะหากแก้รายมาตราแล้วลืมไปได้เลยว่าฉบับประชาชนจะเกิดขึ้นได้ ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า ขอย้ำว่าทางเดินมีอยู่แล้ว เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนแล้ว ถ้าทุกคนจริงใจ ทุกพรรคจริงใจ ก็ไปทำประชามติว่าประชาชนเห็นอย่างไร ไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องระบบเลือกตั้ง เรื่องยุทธศาตร์ชาติ คืนอำนาจให้ประชาชนได้ เราคืนให้เขาเถิด ตอนยึดอำนาจยึดกันง่ายๆ แล้วมาเขียนรัฐธรรมนูญเข้าข้างตัวเอง แต่พอจะคืนอำนาจในการเขียนรัฐธรรมนูญให้ประชาชนกลับมีปัญหา จึงขอเรียกร้องจิตสำนึกทุกพรรคการเมืองต่อการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้ดำเนินการฟังเสียงประชาชน ถ้าเขาต้องการมีรัฐธรรมนูญของเขาเอง รัฐสภาก็ควรตอบสนองประชาชน

Advertisement

ด้าน นายโภคิน พลกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า สิ่งที่แปลกใจคือ วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาเสนอ 1 ร่างแต่มีหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่สำคัญคือระบบเลือกตั้ง ย้อนกลับไปใช้แบบรัฐธรรมนูญ 40, 50 ส่วนพรรคเพื่อไทย ตนเคยได้ยกร่างเรื่องระบบเลือกตั้งและเสนอ แต่ตกไป เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่เอาด้วย แต่เมื่อแก้ไขระบบเลือกตั้ง จำนวน ส.ส.เขต จาก 350 คน มาเป็น 400 คน ซึ่งเรากังวลว่าหากต้องแบ่งเขตเลือกตั้งกันใหม่ และผู้รับผิดชอบแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ยุติธรรม ไม่เป็นกลาง โอกาสที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับพวกตัวเองสูง รวมทั้งไม่มีการกำหนดสัดส่วนระหว่างคะแนนที่ได้รับกับที่นั่งพึงได้ ทั้งนี้ ไม่ใช่พวกเรากังวลว่าเพราะยังไม่ได้ส่งผู้สมัครแบบใดก็ได้ แต่สิ่งที่อยากเห็นคือการให้ประชาชนออกแบบ เพราะจะตัดข้อโต้แย้ง ให้เขาร่างเขาเห็นชอบ ปัญหาความขัดแย้งของประเทศจบที่การตัดสินใจของประชาชน ประเทศจะไปได้ต้องทำสิ่งนี้ พวกเราจะยืนยันสิ่งนี้ต่อไปและพยายามสู้ต่อไป จะทำหน้าที่ของพรรคการเมืองอย่างเต็มกำลัง

นายโภคินกล่าวต่อว่า เราเห็นว่ามันเกิดความย้อนแย้ง พรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาล โหวตคว่ำระบบเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ซึ่งขณะนั้นคุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานยุทธศาสตร์ ส่วนตนเป็นผู้ยกร่าง แต่วันนี้ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐเสนอระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ พรรคเพื่อไทยว่าไม่ได้ เพราะเสนอมาก่อน วันนั้นโหวตคว่ำแต่วันนี้นำกลับมาใหม่ ไม่กี่เดือนเอง ถามว่าทั้งหมดเพื่อตอบโจทย์อะไร หลายฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนถึงมองว่าทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น

“วันหนึ่งมองว่าพรรคหนึ่งชนะแน่ ฉันเขียนกติกาอะไรก็ได้ให้พรรคนั้นไม่ชนะ พอวันหนึ่งคุณคิดว่าชนะแน่ ฉันก็เขียนกติกาอย่างที่ว่าเขาแล้วเอามาใช้เอง ประเทศจะอยู่กันแบบนี้เหรอ ไม่ยุติธรรม เอารัดเอาเปรียบ ไม่เห็นหัวประชาชน พรรคไทยสร้างไทยเรายอมตรงนี้ไม่ได้ เราต้องเดินไปด้วยกัน ขอประชาชนมาเดินร่วมกัน เพื่อสร้างและส่งมอบประเทศที่ดีที่สุดให้กับลูกหลาน ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ ยังนึกไม่ออกว่าจะไปอย่างไรต่อไป ถ้ายังเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ เอาเปรียบก็จะเป็นปัญหาหมด อย่าสิ้นหวังกับรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน แต่เราต้องพยายามหนักขึ้น ต่อสู้มากขึ้น แม้เห็นทิศทางว่าคนในสภาไม่อยากได้ฉบับประชาชน แต่ประชาชนต้องไม่ยอมแพ้ ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน”

Advertisement

ขณะที่ นายวัฒนา เมืองสุข กล่าวว่า สิ่งที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งคือโยนอำนาจทั้งหมดให้ประชาชนดีไซน์ว่าอยากได้บัตรเลือกตั้งแบบใด เขตเลือกตั้งแบบใด ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจะเกิดความเป็นธรรมที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image