‘พช.’ เปิดเวทีประกวด ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีฯ ภาคอีสาน ส่งผ้าประชัน 1,677 ผืน

‘พช.’ เปิดเวทีประกวด ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณวรีฯ ภาคอีสาน ส่งผ้าประชัน 1,677 ผืน รักษามรดกงานศิลป์แผ่นดินไทย

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ จังหวัดอุดรธานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานในการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ระดับภาค โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการประกวดระดับภาค ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชนเข้าร่วมงาน โดยเน้นย้ำมาตรการป้องกัน การเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิอย่างเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า การประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ในวันนี้ถือเป็นจุดท้ายสุดในการประกวดระดับภาค เพื่อคัดเลือก 75 ผ้าพื้นถิ่นที่ดีที่สุด จาก 4 ภูมิภาค เข้าตัดสินในระดับประเทศ โดยเริ่มต้นจากภาคกลางที่จังหวัดอยุธยา ภาคใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน OTOP CITY 2020 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พระองค์ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านและภูมิปัญญาไทย เพื่อฟื้นฟูมรดกงานศิลป์ล้ำค่าของแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราวประจำภูมิภาค เป็นคุณูปการอย่างยิ่งแก่ปวงชนคนไทยไม่ว่าจะในชนบทและเมือง ทรงพระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ผ่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เพื่อสื่อความหมายและส่งมอบความรักและความสุขให้แก่ชาวไทยทุกคน และพระราชทานพระอนุญาตให้กลุ่มทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค สามารถนำไปใช้ทอผ้า ผลิตผ้าได้ อีกทั้งพระราชทานพระอนุญาตให้กรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ตามโครงการส่งเสริมภูมิปัญญาและพัฒนาศักยภาพผ้าไทย ระดับภาค โดยได้น้อมนำเอาแนวพระราชดำริ ในวิถีของการวิจัยและพัฒนา หรือ R&D ผ้าไทยให้ได้รับการยกระดับ และคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อกระตุ้นให้พี่น้องกลุ่มทอผ้าทั้งหลาย ได้พัฒนาฝีมือ ค้นหาเทคนิควิธีการในการผลิตผ้าไทยให้ดีขึ้น เหมาะสมแก่การตัดเย็บเสื้อผ้าสมัยใหม่ เหนือล้ำไปกว่าการมุ่งหวังผลแพ้ชนะ คือการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ดร.วันดี กล่าวว่า สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงาน พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา ในการพลิกฟื้นผ้าไทย จากสิ่งทอของชาวบ้านที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์ที่สวมใส่ให้คนทั่วโลกยอมรับถึงคุณค่าและความงดงามอันประเมินค่ามิได้ ซึ่งในระยะเวลากว่า 60 ปี ได้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ลดปัญหาการว่างงาน ก่อให้เกิดรายได้แก่กลุ่มสตรีและพี่น้องคนไทยทั่วทุกภูมิภาค และในการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณววีฯ” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทาน “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ให้ในการประกวดทั้ง 4 ภูมิภาค ทำให้วงการผ้าไทยกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง กี่ทอผ้ากลับกลายมาเสียงกระตุกอีกครั้ง ตลาดให้การยอมรับเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดมิติใหม่ นำผ้าไทยไปออกแบบ ตัดเย็บ ออกแบบลวดลายได้ทันสมัย และสิ่งที่สำคัญในพระมหากรุณาครั้งนี้ ต้องการสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงได้มีการรณรงค์สืบสานผ้าไทย ตามโครงการ”สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ซึ่งหากคนไทย 35 ล้านคน ใส่ผ้าไทย 10 เมตร ๆ ละ 300 บาท จะทำให้เพิ่มรายได้ 3 แสนล้านบาทกลับคืนสู่ชุมชนไทย และยิ่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทุกคนในประเทศได้ผลกระทบเป็นอย่างมาก การสวมใส่ผ้าไทยก็เป็นการช่วยเหลือพี่น้องคนไทยร่วมกัน ก็ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทั้งประเทศสวมใส่ผ้าไทยไม่ว่าจะเป็น ผ้าฝ้าย ผ้าไหม และอย่างยิ่งเดือนกรกฎาคม เป็นเดือนแห่งการเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และในเดือนสิงหาคมเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระพันปีหลวง มาร่วมกันถวายพระเกียรติสวมใส่ผ้าไทย ด้วยความภาคภูมิใจร่วมกัน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การประกวดผ้าลายพระราชทานฯ ในวันนี้ถือเป็นที่น่าภาคภูมิใจของพี่น้องชาวตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด เป็นอย่างมาก ที่มีการส่งผ้าเข้าประกวดในระดับภาคเยอะที่สุดในประเทศไทย มากกว่า 1,677 ผืน ประเภทผ้าที่ส่งเข้าประกวดมากที่สุดคือ คือ ผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอ ส่งเข้าประกวดมากถึง 1,070 ผืน รองลงมา คือ ผ้ามัดหมี่ 3 ตะกอ 294 ผืน, ผ้าขิด 92 ผืน, ผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ 68 ผืน, ผ้าเทคนิคผสม 51 ผืน, ผ้ายกดอก 26 ผืน, ผ้าแพรวา 22 ผืน, ผ้าบาติก/มัดย้อม 22 ผืน, ผ้าจกทั้งผืน 10 ผืน, ผ้าปักมือ 9 ผืน, ผ้ายกเล็ก 5 ผืน, ผ้ายกใหญ่ 3 ผืน, ผ้าตีนจก 3 ผืน, ผ้าลายน้ำไหล 1 ผืน และผ้าพิมพ์ลาย 1 ผืน ซึ่งทุกผืนล้วนมาจากความตั้งใจและงดงาม โดย กรมการพัฒนาชุมชน ได้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คร่ำหวอดในแวดวงแฟชั่นผ้าไทย ร่วมตัดสิน คัดเลือก ในส่วนของการประกวดระดับภาคนั้น โดยไม่มีการจำกัดจำนวนผ้าที่เข้ารอบแต่อย่างใด ผลงานที่เข้ารอบทั้งหมดจะไปเข้าสู่การตัดสินให้เหลือ 75 ผืนสุดท้าย ที่ดีที่สุด จาก 4 ภูมิภาค เหลือเพียง 75 ผืน เข้ารอบชิงชนะเลิศระดับประเทศต่อไป โดยรอบ Semi Final จะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ณ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร และรอบตัดสินรางวัลการประกวดในระดับประเทศ ดำเนินการระหว่างวันที่ 27 – 29 กรกฎาคม 2564

โดยกรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระราชินูปถัมน์ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในการตัดสิน เป็นมิ่งขวัญและกำลังใจอย่างยิ่ง ผลงานของผู้ชนะการประกวด เป็น The Best of The Best จะถูกนำมาออกแบบตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ และได้รับเหรียญพระราชทาน พระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ทรงออกแบบด้วยพระองค์เอง มีนัยยะสะท้อนชัดเจนถึงการทรงงานเพื่อยกระดับคุณค่าผ้าไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทย ตามพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกทั้งพระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกาย สิ่งทอ เผยแพร่ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ผ้าทุกผืนที่ทุกคน ทุกกลุ่มใช้ฝีมือร่วมกันสร้างสรรค์ เสริมส่งให้เกิดการพัฒนาศักยภาพวงการผ้าไทยให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น องค์ความรู้ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชน เป็นวงจรเศรษฐกิจเชิงมหภาค

“ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี คณะกรรมการประกวดทุกท่าน และประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่าย รณรงค์ส่งเสริมคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้จึงเป็นดั่งดอกผลของความมหัศจรรย์ที่พระองค์ท่านได้ทรงพระราชทานแก่พี่น้องคนไทยที่ได้นำลายผ้าพระราชทาน ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ไปรังสรรค์แสดงผลงานเข้าประกวดกันในครั้งนี้ ทำให้วงการผ้าไทยเกิดความคึกคัก ปลุกกระแสผ้าไทยสู่สากล สร้างรายได้กลับสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน”อธิบดีพช. กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image