ไทย-เยอรมัน ต่อยอดความสำเร็จ ปรับตัว การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศแห่งชาติ ภายใต้โครงการ Risk-NAP

ไทย-เยอรมัน ต่อยอดความสำเร็จ ปรับตัว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ภายใต้โครงการ Risk-NAP

​สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยกองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (กปอ.) และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ได้จัดการประชุมเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากความร่วมมือไทย-เยอรมัน ด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ภายใต้โครงการ Risk-NAP  ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมี ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมฯ ร่วมกับ มร. เกออร์ก ชมิดท์ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย และ มร. ไรโฮล์ เอลเกส ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทยและมาเลเซีย

 

โดย ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการสผ.กล่าวถึง ความมุ่งมั่นในการต่อยอดผลสำเร็จจากหน่วยงานที่ร่วมดำเนินโครงการฯ และ ดร.ณัฏฐนิช อัศวภูษิตกุล ผู้อำนวยการกองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวรายงาน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการนำเสนอความสำเร็จและบทเรียนจากการดำเนินโครงการสนับสนุนการจัดทำแผนการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในมิติการจัดการความเสี่ยงและเผยแพร่ผลผลิต (outputs) และผลลัพธ์ (outcome) จากการดำเนินโครงการฯ ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้นำไปใช้และขยายผลในวงกว้าง รวมถึงนำเสนอความมุ่งมั่นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการต่อยอดความสำเร็จและบทเรียนจากการดำเนินโครงการฯ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ สผ. เจ้าหน้าที่ GIZ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนจากหน่วยงานส่วนกลาง อาทิเช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอนามัย สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการท่องเที่ยว เป็นต้น

Advertisement

 

 

Advertisement

ความสำเร็จที่สำคัญจากการดำเนินโครงการในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ การบูรณาการในระดับประเทศ โครงการฯ ได้สนันสนุนการวิเคราะห์และบูรณาการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่แผนและนโยบายใน 3 สาขาที่สำคัญ ได้แก่ สาธารณสุข การท่องเที่ยว และการตั้งถิ่นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ โครงการฯ ยังได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ผ่านการประชุมระดับสูงและการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ

กลไกการเงินและการติดตามการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ โครงการฯ ได้ผนวกเกณฑ์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้าสู่การพิจารณาในระบบงบประมาณของประเทศและกองทุนสิ่งแวดล้อม รวมถึงสนับสนุนการวิเคราะห์เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์และการเงินสำหรับการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ ที่เสนอภายใต้ (ร่าง) กฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โครงการฯ ยังได้จัดทำกรอบแนวคิดการติดตามและประเมินผลด้านการปรับตัวฯ พร้อมกับดัชนีชี้วัดภูมิคุ้มกันในรายสาขาขึ้น เพื่อใช้ประเมินสถานะการมีภูมิคุ้มกันต่อภาวะกดดันจากสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

การบูรณาการในระดับพื้นที่ โครงการฯ ได้เริ่มกระบวนการวางแผนด้านการปรับตัวฯ ในพื้นที่นำร่อง 4 พื้นที่ ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศตามภาพฉายอนาคตในสถานการณ์ต่างๆ การระบุพื้นที่เสี่ยงที่สำคัญ และการกำหนดทางเลือกในการปรับตัวฯ ซึ่งดำเนินการผ่านการมีส่วนร่วมจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ภาคเอกชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชน ในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสาขาการท่องเที่ยว การเกษตร การตั้งถิ่นฐาน สาธารณสุข ทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรธรรมชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image