‘บิ้กป้อม’ ถกปกค. ดันแผนปัองกันแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ปี64 ย้ำจนท. คุมเข้มช่วงโควิด-19

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (คณะกรรมการ ปกค.) ครั้งที่ 2/2564 และการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ ปกค. ในวันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจะช่วยให้หน่วยงานมีทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และได้มอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว รวมทั้งเตรียมการจัดทำกรอบแนวทางแผนปฏิบัติการฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดยมีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลตำรวจเอก ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ) ร่วมบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เพื่อให้มีกลไกการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเป็นระบบ รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ และเป็นเอกภาพในทิศทางเดียวกัน

สำหรับการประชุมคณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐฯ พลเอก ประวิตรฯ กล่าวว่า คณะกรรมการได้ติดตามผลการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และพิจารณา (ร่าง) ขั้นตอนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และ (ร่าง) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรการทางบริหารในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อให้ครอบคลุมการนำพาบุคคลเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง ซึ่งอาจมีผลเกี่ยวข้องหรือนำไปสู่การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วย นอกจากนี้ได้เน้นย้ำกับผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยงาน ให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตนมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ก็ให้ดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเคร่งครัด

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีต่อเนื่อง ขอให้ทุกหน่วยงานได้ระมัดระวังความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และให้ปรับกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image