ชี้ 2 ปัจจัยหลักกระทบตลาดหุ้น ยอดติดเชื้อโควิด-ผลประกอบการไตรมาส 2

นายวทัญ จิตต์สำนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้มีโอกาสฟื้นตัวหลัง SET INDEX ได้ปรับฐานลงมาก่อนหน้าตอบรับมาตรการเข้มงวดใหม่ไปแล้ว ได้แก่ ปรับเวลาเปิด-ปิด ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ, ระบบขนส่งสาธารณะ, ขอความร่วมมือ WFH, ปิดร้านนวด  มองหุ้นรับผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มนี้ ส่วนหุ้นได้ประโยชน์คือกลุ่ม หนุนจากการเวิร์กฟอร์มโฮม ทั้งนี้ แม้มีมุมมองว่า SET INDEX มีโอกาสฟื้นตัว แต่เชื่อว่ากรอบข้างบนยังมี Upside จำกัด เนื่องจาก 1.ตัวเลข COVID-19 ที่ยังทรงตัวระดับสูงบวกหรือลบระดับ 9,000 ราย และยังสูงกว่าการรักษาหายต่อวันเฉลี่ยที่ 4,000 ราย  หากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้เป็นไปได้ที่รัฐจะยกระดับการควบคุมเพิ่มขึ้น 2.เข้าใกล้การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2564  เชื่อว่าหลังจากนี้นักวิเคราะห์จะเริ่มปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนเพื่อสะท้อนการระบาดที่ดำเนินมาถึงไตรมาส 3/2564  และมีแนวโน้มที่ทั้งไตรมาส 3/2564 จะเผชิญการระบาดต่อ ถือเป็นปัจจัยกดดันในระยะถัดไป ทั้งนี้ โดยประเมิน SET กรอบ 1540-1580 จุด

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ต่อการลงทุน ได้แก่ 1.การหารือในวันจันทร์เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการยกระดับคุมเข้มในสัปดาห์นี้ผ่านมา 2.การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Bloomberg Consensus ประเมินจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันศุกร์นำมาโดย และสัปดาห์ถัดไปจะตามมาด้วยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3.ยอดค้าปลีกสหรัฐในวันศุกร์ Bloomberg ประเมิน -0.4% เทียบเดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ดีกว่าคาด

กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้นมองเป็นจังหวะของการเล่น Rebound แต่ควรเป็นการ Selective เน้นหุ้นอิงภายนอกเป็นหลัก อาทิ กลุ่มส่งออก โรงพยาบาล ที่รับผลบวกจากการระบาดกอปรกับภาครัฐอนุญาตให้โรงพยาบาลสามารถตรวจ COVID-19 โดยที่แม้จะพบผลเป็นบวกแต่ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษา จึงเชื่อว่าทางโรงพยาบาลจะเปิดรับตรวจมากขึ้น เป็นบวกต่อผลประกอบการ รวมถึงกลุ่มน้ำมัน ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับขึ้น ส่วนนักลงทุนระยะยาวหุ้น Domestic บางตัวลงมาจน Valuation เริ่มน่าสนใจสะสม

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image