วิระชัยกลับนั่งเก้าอี้รอง ผบ.ตร.หลังศาลปกครองสั่งคุ้มครอง โฆษก ตร.เผยงงไม่เคยปรากฏมาก่อน ประสานฝ่าย กม.-กำลังพลหารือแนวทางปฏิบัติ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงแนวกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ที่ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา กลับมานั่งเก้าอี้รอง ผบ.ตร. ว่าขณะนี้ ตร.คงได้รับหนังสือจากศาลปกครองกลางแล้ว ดังนั้น เมื่อ ตร.ได้รับหนังสือแล้วก็คงต้องพิจารณาในตัวกฎหมาย โดยสำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) รวมถึงสำนักงานกำลังพล (สกพ.) ต้องร่วมกันหาแนวทางว่าจะดำเนินการกันอย่างไร สำหรับกรณีดังกล่าวไม่เคยปรากฏใน ตร.มาก่อน การพิจารณาข้อกฎหมายก็คงจะต้องใช้ความละเอียดถี่ถ้วน ส่วนผู้ถูกฟ้องขณะนี้มีด้วยกัน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย ตร. ผบ.ตร. สำนักงาน ก.ตร. และประธาน ก.ตร. ดังนั้น 4 กลุ่มนี้ก็คงจะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งต่อไป ส่วนขั้นตอนการดำเนินการเมื่อ พล.ต.อ.วิระชัยกลับมาแล้ว ดังนั้น คำสั่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยออก ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งสำรองราชการ คำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง ก็ต้องรอไว้ก่อน คือต้องระงับไว้ชั่วคราวตามคำสั่งศาลปกครองกลาง แต่ตัวคำสั่งยังคงอยู่ ซึ่งที่สุดแล้วคำสั่งพิจารณาตัดสินของศาลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรออีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น เวลานี้คงตอบได้แค่นี้
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า ส่วนจะให้ พล.ต.อ.วิระชัยเข้าไปดำรงตำแหน่งตรงไหน หน้าที่อะไร ต้องรอการพิจารณาของฝ่ายกฎหมายและฝ่ายกำลังพล ซึ่งต้องหารือกันว่าจะมีแนวทางอย่างไร ตนคงตอบขณะนี้ไม่ได้ ส่วนกรณี พล.ต.อ.วิระชัยจะกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ เป็นคำยืนยันของ พล.ต.อ.วิระชัยต่อสื่อมวลชน แต่ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายต้องพิจารณาอีกครั้งว่าการปฏิบัติหน้าที่จะเป็นการปฏิบัติอย่างไร เพราะปรากฏการณ์อย่างนี้ก็ไม่เคยปรากฏมาก่อนเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องให้เป็นไปตามศาลปกครองกลาง ตร. ต้องหาแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งของศาล ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายกำลังพลต้องไปหาแนวทางการปฏิบัติมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ แต่เข้าใจว่าทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องต้องเดินหน้าในการดำเนินการ ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย กรณีนี้อย่าเพิ่งบอกว่าเรามึนกับกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ได้มึน คำสั่งศาลว่าอย่างไรเราก็ดำเนินการไปอย่างนั้น แต่จะทำอย่างไรต่างหาก ซึ่งต้องมีการมาหาแนวทางร่วมกันเพื่อรักษาสิทธิของทุกคน และทุกคนต้องได้รับสิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย
