เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการจับกุม นายณัฐวุฒิ ฤทธิเรืองเดช มาจากบ้านพักใน จ.ชัยนาท ว่าเนื่องด้วยกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nuttawut Toon” ได้ประกาศขายสินค้าในกลุ่ม “คนรักเครื่องหมายกิตติมศักดิ์” เป็นภาพถ่ายเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสยบไพรีประเภทกิตติมศักดิ์ (เครื่องหมายผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ตามที่กำหนดไว้โดยมีผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเป็นผู้อนุมัติ) และยังมีการโพสต์ข้อความให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่าสามารถดำเนินการขออนุมัติเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสยบไพรีประเภทกิตติมศักดิ์ได้จริง โดยคิดค่าใช้จ่ายการดำเนินการเครื่องหมายละ 6,500 บาท พร้อมใบประกาศ สำหรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสยบไพรีประเภทกิตติมศักดิ์พร้อมใบประกาศคุณวุฒิ ซึ่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดไม่มีนโยบายหรือมอบอำนาจให้ผู้ใดเป็นผู้จัดหา ชักชวน ให้ประชาชนได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสยบไพรีประเภทกิตติมศักดิ์ และใบประกาศคุณวุฒิด้วยวิธีการดังกล่าว ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยปราศจากอำนาจตามกฎหมายและใช้ข้อความอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวคือ นายณัฐวุฒิ ฤทธิเรืองเดช ซึ่งเป็นผู้ดูแลจัดการและควบคุมกลุ่มดังกล่าวด้วย
ต่อมา บช.ปส. นำโดย พ.ต.อ.อุดมรัตน์ อิทธิโสภาพันธุ์ ผกก.กลุ่มงานการข่าว บก.ขส. บช.ปส. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดชัยนาท ที่ 51/2564 ลง 23 กรกฎาคม 2564 เข้าค้นบ้านนายณัฐวุฒิ ในอำเภอเมืองจังหวัดชัยนาท โดยนายณัฐวุฒิรับว่าตนเองเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก “คนรักเครื่องหมายกิตติมศักดิ์” จากการตรวจสอบทางเทคนิคยังพบว่านายณัฐวุฒิได้ใช้บัญชี “Nuttawut Toon” ติดต่อกับบุคคลหลายคนเกี่ยวกับเครื่องหมายอื่นของหน่วยงานราชการ เช่น เหรียญยิงปืนค่ายนวมินทร์, เครื่องหมายอรินทราชกิตติมศักดิ์ เป็นต้น
กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ตำรวจ บช.ปส.ได้เชิญตัวนายณัฐวุฒิมาที่ บช.สอท.เพื่อแจ้งให้ทราบถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาว่าได้กระทำผิดให้ทราบว่า เมื่อประมาณกลางเดือนเมษายน 2564 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 09.00 น. นายณัฐวุฒิได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Nuttawut Toon” โพสต์รูปภาพเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสยบไพรีประเภทกิตติมศักดิ์พร้อมข้อความ #เปิดรับ 15 ท่าน เต็มปิดครับ # สำเนาบัตรประชาชน 1 ใบ #inbox ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “คนรักเครื่องหมายกิตติมศักดิ์” พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) และได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบโดยไม่มีการควบคุมตัว จากนี้จะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกฎหมาย และจะได้ดำเนินการผัดฟ้องครั้งที่ 1 ต่อศาลจังหวัดชัยนาท
ส่วนกรณีได้มีสื่ออินเตอร์เน็ตได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ว่าเป็นคดีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 บช.สอท.ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
