ทบ.จัดชุดปฏิบัติการบูรณาการช่วย ปชช.รับมือน้ำท่วม พร้อมเข้าฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ท.หญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันเจิมปากา ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักติดต่อกันในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของประเทศ ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. จนถึงต้นเดือน ส.ค.นี้ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำและแม่น้ำสายหลัก ตลอดจนลำน้ำสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นจํานวนมาก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ และการคมนาคมในพื้นที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และให้นำกำลังพล ยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ตลอดจนประสานงานร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ในการเข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกําลังในการอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของ จัดชุดแพทย์เข้าให้การรักษาพยาบาล รวมถึงจัดถุงยังชีพและยารักษาโรคมอบให้กับผู้ประสบภัยเพื่อช่วยคลี่คลายความเดือดร้อนในเบื้องต้น

พ.ท.หญิง นุชระวี กล่าวว่า โดยในพื้นที่จังหวัดตาก เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกันร่วมหนึ่งสัปดาห์ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเมย และลำน้ำคลองสาขา จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตพื้นที่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.แม่สะเรียง และ อ.ท่าสองยาง กองกำลังนเรศวร โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 35 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ร่วมกับผู้นำชุมชนและเทศบาลในพื้นที่ นำรถยนต์บรรทุก พร้อมด้วยเรือยางท้องแบน เรือหางยาว พร้อมยุทโธปกรณ์เดินเท้าฝ่ากระแสน้ำเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ขวางทางน้ำไหล และซ่อมแซมเส้นทางสัญจรให้สามารถใช้งานได้ชั่วคราว ส่วนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก กองพลพัฒนาที่ 3 ได้นำกำลังพลเข้าช่วยขนย้ายสิ่งของผู้ประสบอุทกภัยใน อ.นครไทย และ อ.ชาติตระการ เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำแควน้อยเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 46 หลังคาเรือน สำหรับในพื้นที่จังหวัดเลย ห้วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักติดต่อกันส่งผลให้น้ำในแม่น้ำหมันเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย กองพลทหารราบที่ 3 ได้จัดกำลังพลจิตอาสา ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง พร้อมกันนี้ได้แจกจ่ายถุงยังชีพ ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค เพื่อใช้ในการดํารงชีพและบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น โดยล่าสุดได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจพื้นที่สำหรับเข้าฟื้นฟูทำความสะอาด พร้อมซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ


พ.ท.หญิง นุชระวี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนถึงสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ อย่างต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ ดังนั้น กองทัพบก โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกในพื้นที่จะทำการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ป้องกัน เครื่องมือ และยุทโธปกรณ์ให้มีความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image