‘ปรเมษฐ์‘ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งยกฟ้อง ปธ.ศาลฎีกาหลังศาลอาญาคดีทุจริตฯยกฟ้องคดี 157 แต่งตั้ง กก.สอบวินัยมิชอบ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 กล่าวภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบยกฟ้องในชั้นตรวจฟ้องในคดีที่ได้ยื่นฟ้อง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นจำเลย กรณีกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากการที่ประธานศาลฎีกาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมิชอบด้วยกฎหมายฯ ว่าเตรียมใช้สิทธิในการที่จะยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเสมอภาคกัน
เพราะ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการมาตรา 45 ในการประชุม ก.ต.ห้ามไม่ให้กรรมการผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องพิจารณาเข้าร่วมประชุมและลงมติในเรื่องนั้น เพราะปกติกรรมการผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมต้องรู้ดีว่า ไม่สมควรเข้าไปประชุมและลงมติ ที่เป็นผลร้ายแก่คู่กรณีที่มีส่วนได้เสีย
อีกประเด็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่ชอบ โดยยังไม่ได้ชี้แจงและนำพยานหลักฐานเข้าสืบแก้ตามภายในระยะเวลาอันสมควรตามประกาศคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ข้อ 6 วรรค 1 แล้ววรรค 2 กำหนดว่าการสอบสวนตามวรรค 1 ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำพยาน หลักฐาน ในข้อที่เป็นผลร้ายนั้นเข้าสืบแก้ในข้อที่เป็นผลร้ายนั้น และข้อ 9 เมื่อเสร็จสิ้นการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นแล้ว คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาในข้อที่เป็นผลร้ายแล้วให้ผู้ถูกกล่าวหา ชี้แจงแล้วนำพยานหลักฐานเข้าสืบแก้ในข้อที่เป็นผลร้าย แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการสอบสวนไม่ชอบตามกฎหมาย
เเละนอกจากคดีที่ยกฟ้องแล้ว ยังมีคดีหมายเลขดำที่ อท 93/2564 ที่ตนได้ยื่นฟ้องประธานศาลฎีกาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ อีก 1 สำนวน
อยากขอให้จับตาว่าการประชุม ก.ต. ที่จะมีวาระแต่งตั้งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสของตนจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่