เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 กันยายน บริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ เเกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ดำเนินกิจกรรม พร้อมผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 8-9 คน เข้าร่วมกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 1.12 ชั่วโมง” เป็นวันที่ 25 โดยยืนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที พร้อมห้อยป้าย ปล่อยเพื่อนเราเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่โดนจับกุม มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 8-9 คน
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวกับผู้มาเข้าร่วมกิจกรรมว่า วันนี้นับเป็นวันที่ 25 ของการดำเนินกิจกรรมยืนหยุดขังของพลเมืองโต้กลับ จนถึงวันนี้มี “ผู้ต้องขังทางการเมือง” ถูกขังระหว่างการดำเนินคดี เหลืออยู่ในเรือนจำ 8 คน เป็นที่น่ายินดีว่าวันที่ 10 ก.ย. ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเตรียมยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา และจำเลยจากคดีการชุมนุมทางการเมืองทั้ง 7 คน อีกครั้ง หลังถูกคุมขังกันครบเดือน อานนท์ นำภา ถูกคุมขังจากการปราศรัยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ คดียังอยู่ชั้นสอบสวน และศาลให้ฝากขัง วันที่ 10 กันยายน จะครบกำหนดฝากขังและจะคัดค้านการฝากขังอีกครั้งต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วน เพนกวิน หรือพริษฐ์ ชิวารักษ์, ไมค์ หรือภาณุพงษ์ จาดนอก, ณัฐชนน ไพโรจน์ หรือณัฐ, ฟ้า หรือพรมศร วีระธรรมจารี, บอย หรือชาติชาย หรือธัชพงศ์ แกดำ ทั้งห้าคนถูกคุมขังจากการชุมนุมหน้า บก.ตชด. ภาค1 คดียังอยู่ชั้นสอบสวนและศาลธัญบุรีให้ฝากขังโดยไม่ให้ประกันตัว จะยื่นขอประกันตัวอีกครั้งต่อศาลธัญบุรี ส่วนไผ่ หรือจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ถูกคุมขังจากการชุมนุมสาดสีที่หน้าสโมสรตำรวจ และสาดสีที่หน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทั้งสองคดียังอยู่ในชั้นสอบสวนศาลให้ฝากขังและไม่ให้ประกันตัว จะยื่นขอประกันตัวอีกครั้งที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ทั้งไผ่ และเพนกวิน ยังถูกศาลอาญาสั่งเพิกถอนสัญญาประกันตัวในคดีจากการชุมนุมวันที่ 19 กันยายน 2563 ซึ่งคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลแล้ว แต่เลื่อนการสืบพยานออกไปเพราะเหตุโควิด ทนายความจึงเตรียมยื่นประกันตัวทั้งสองคนในคดีนี้อีกด้วย เรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องคือ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้า, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก จัดกิจกรรม ยืน หยุด ขัง เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้แก่นักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยจะเริ่มกิจกรรมวันที่ 10 ก.ย. นี้ เวลา 11.30 น. ในรูปแบบคาร์ม็อบ เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเพื่อนสมาชิกสนใจกิจกรรมไหนก็สามารถเข้าร่วมได้ หรือจะยืนหยุดขังที่หน้าบ้านตัวเองก็ยินดี หลังจากนั้นทั้งหมดได้พร้อมใจกันหันหน้าเข้าหาศาลฎีกา ชูสามนิ้ว และเปล่งเสียง “ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัว” พร้อมกัน 3 ครั้ง ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน ท่ามกลางก่ารบันทึกภาพและเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารนอกเครื่องแบบนับ 10 นาย
