เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 กันยายน ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง กลุ่มพลเมืองโต้กลับ วันนี้นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ เเกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ดำเนินกิจกรรม พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 30 คน เข้าร่วมกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 1.12 ชั่วโมง” เป็นวันที่ 30โดยยืนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที พร้อมห้อยป้าย ปล่อยเพื่อนเราเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่โดนจับกุม
โดยภายหลังยืนครบเวลา นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่าวันนี้เป็นวันที่ 30ของการดำเนินกิจกรรม
ผู้ต้องขังทางการเมือง ถูกขังระหว่างการดำเนินคดี รอบส.ค. 64 อย่างน้อย 12 คน ติดโควิดแล้ว 7 คน (ได้ประกันตัว 4 คน) เหลืออยู่ในเรือนจำ 8 คนวันเสาร์ที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา มีการไต่สวนฝากขังครั้งที่ 4 ในคดีชุมนุม 2ส.ค. 2564 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี เพนกวินและเพื่อนรวม 5 คนได้คัดค้านการฝากขังโดยการแถลงต่อศาล แต่ศาลไม่ได้บันทึกคำแถลงดังกล่าว ซึ่งแถลงการณ์ต่อศาลของเพนกวินมีใจความ ดังนี้
“ข้าแต่ศาลที่เคารพ ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถูกฝากขังไว้ทั้งที่ยังไม่มีความผิดตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยการฝากขังนั้น มิได้ถูกรองรับโดยเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายแม้แต่ประการเดียว เพราะพนักงานสอบสวนได้อ้างถึงเหตุในการควบคุมตัวว่าเป็นไปเพื่อมิให้ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
ข้าพเจ้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าไม่มีกฎหมายข้อใดให้อำนาจศาลคุมขังบุคคลเพื่อจำกัดมิให้ใช้เสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมอย่างแน่นอน อีกทั้งกระบวนการฝากขังนี้ก็ดำเนินไปโดยมิได้มีการเบิกตัวข้าพเจ้ามาร่วมการพิจารณาในการฝากขังครั้งที่สองและครั้งที่สามที่ผ่านมา เท่ากับเป็นการฝากขังข้าพเจ้าลับหลัง โดยศาลรับฟังเพียงฝ่ายตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์ มิได้รับฟังข้าพเจ้าที่เป็นผู้ต้องหาแม้แต่น้อย
นอกจากนี้คำร้องฝากขังครั้งที่ 4 ที่ตำรวจยื่นให้ศาลพิจารณายังอ้างว่าข้าพเจ้าจัดกิจกรรมทางการเมืองนำไปสู่การดำเนินคดีทางอาญาก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมืองเป็นการกระทำที่ผิดซ้ำซาก ข้าพเจ้าจะต้องเรียนต่อศาลว่าในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนทุกครั้งไม่มีครั้งใดที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายนอกจากตำรวจจะใช้กำลังก่อให้เกิดความรุนแรงแก่ประชาชนก่อนเท่านั้น
อีกทั้งข้อหาทั้งหลายที่พนักงานสอบสวนอ้างถึง เป็นเพียงข้อกล่าวหาซึ่งผู้ใดก็กล่าวหากันได้ ข้าพเจ้ายังไม่เคยต้องคำพิพากษาให้มีความผิดในคดีร้ายแรงใด ศาลจึงต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของข้าพเจ้าที่ว่าบุคคลย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ข้าพเจ้าจึงขอให้ศาลพิจารณาปล่อยตัวข้าพเจ้า และเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในทันที เพื่อมิให้ท่านผู้ซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมายจะต้องละเมิดกฏหมายเสียเอง ขอศาลโปรดพิจารณา”
หลังการแถลง ศาลตอบกลับมาว่าไม่สามารถจดบันทึกคำแถลงได้ และขออย่าใช้คำพูดเช่นนี้อีกเพราะศาลย่อมยุติธรรมอยู่แล้ว
โดยเพนกวินเลยตอบกลับว่า “ครับ” “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”
เเละศาลอนุญาตให้ฝากขังครั้งที่ 4 อีก 12 วัน ถึงวันที่ 25 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นผัดสุดท้ายในคดีนี้
ร่วมกันตั้งคำถามต่อศาลว่าศาลยุติธรรมอยู่แล้วจริงหรือ ถ้าจริงทำไมไม่ให้สิทธิการประกันตัวต่อผู้บริสุทธิ์ ร่วมกันทวงถามความยุติธรรมต่อศาล เดินหยุดขัง ณ ลานอากง สนามราษฎร์ (สนามหลวง)ทุกวัน เวลา 17.00 น.