เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 กันยายน ที่บริเวณหน้าศาลฎีกา สนามหลวง นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ดำเนินกิจกรรม พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 30 คน เข้าร่วมกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง 1.12 ชั่วโมง” เป็นวันที่ 31 โดยยืนเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที พร้อมห้อยป้าย ปล่อยเพื่อนเรา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่โดนจับกุม
โดยภายหลังยืนครบเวลา นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 31 ของการดำเนินกิจกรรม
ความคืบหน้าเรื่องคดีในวันนี้นั้นศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และเพื่อนที่ถูกคุมขังในเรือนจำ รวม 5 คน สั่งติดกำไลอีเอ็ม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานระบุว่า ศาลอุธรณ์ภาค 1 ให้ประกันตัว 5 แกนนำแนวร่วมราษฎรที่ถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี และมีบางคนติดโควิดระหว่างถูกคุมขังด้วย ได้แก่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า, นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ซึ่งทั้ง 4 คนถูกปล่อยตัวที่เรือนจำธัญบุรี ส่วน ณัฐชนน ไพโรจน์ หรือณัฐ ถูกปล่อยตัวที่เรือนจำชั่วคราว รังสิต
โดยเป็นการยื่นคำร้องปล่อยชั่วคราวในคดีชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวกลุ่มทะลุฟ้าที่หน้ากองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.) ภาค 1 พร้อมเงื่อนไขติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอ็ม)
ทั้งนี้ กรณีเพนกวิน-นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ยังมีหมายขังในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งถูกศาลอาญาสั่งเพิกถอนการประกันตัวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ยังต้องรอการยื่นขอประกันตัวในคดีดังกล่าวอีก ซึ่งหากไม่ได้รับการประกันตัว ก็จะถูกควบคุมตัวต่อที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร ส่วนบอย ชาติชาย หรือธัชพงศ์ แกดำ ทนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้แจ้งว่า
หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาตให้ประกันตัวบอย ชาติชาย แกดำ ก็มีข่าวว่าตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต กำลังจะเข้าไปควบคุมตัวบอยไปคุมขังโดยอ้างหมายจับเดิม ซึ่งเคยแสดงหมายจับอ่านหมายจับให้ฟัง แจ้งสิทธิ แจ้งข้อกล่าวหา สอบปากคำและดำเนินคดีไปแล้ว
เรื่องนี้ถ้าจริงเห็นว่าตำรวจไม่มีอำนาจควบคุมตัวใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหมายจับเดิมได้สิ้นผลไปแล้วตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 68
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3744/2541 วินิจฉัยว่าการที่พนักงานสอบสวนที่ทำเรื่องขออายัดตัวผู้ต้องหา ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่ผู้ต้องหา แจ้งสิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา รวมทั้งได้สอบคำให้การผู้ต้องหาไว้ด้วยแล้วนี้ ไม่ใช่เป็นเพียงการขออายัดตัวผู้ต้องหาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องถือว่าพนักงานสอบสวนได้จับผู้ต้องหาแล้ว หรือผู้ต้องหาถูกจับแล้วตั้งแต่ขณะนั้น ถึงแม้ผู้ต้องหาจะถูกควบคุมตัวอยู่ในคดีอื่น และพนักงานสอบสวนในคดีนี้เพิ่งได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีในภายหลังก็ตาม ดังนั้น เมื่อถือว่าผู้ต้องหาได้ถูกจับแล้ว
หมายจับก็ย่อมสิ้นผลไป จะนำมาอ้างเพื่อควบคุมตัวอีกไม่ได้
ร่วมกันเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัว กับผู้ต้องขังทางการเมืองที่ยังไม่พิสูจน์ถูกผิด ร่วมกันทวงถามความยุติธรรมต่อศาล #เดินหยุดขัง ณ ลานอากง สนามราษฎร์ ทุกวัน เวลา 17.00 น.