เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พร้อมฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ คุมตัวนายเดชณรงค์ วรรณสังข์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธ หรือพรางตัวเพื่อไม่ให้เห็นใบหน้า โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธหรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ และมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านสะดวกซื้อ สาขาอำเภอนาคู หลังเมื่อเวลา 24.00 น.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สมชายกล่าวว่า ก่อนก่อเหตุผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ แล้วใช้เสื้อคลุมหัวปิดบังใบหน้าเดินเข้าไปใช้มีดอีโต้ขู่ฟัน พร้อมตะโกน “หยุด นี่คือการปล้น” และบังคับพนักงานให้นำเงินออกมาให้จำนวน 3,000 บาท แล้วหลบหนีไปที่บ้านพัก ใน ต.บ่อแก้ว อ.นาคู ก่อนจะนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ต่อมาฝ่ายชุดสืบสวนสภ.นาคูอยู่ระหว่างติดตามตัว และสืบทราบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่ตัวอำเภอนาคู จึงเร่งติดตามมาก็พบว่าคนร้ายเข้ามาที่ร้านทอง และใช้อาวุธมีดเล่มเดิมที่ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อมาก่อนเหตุชิงทรัพย์ทองร้านทองเยาวราช (ตรามังกร 2) เลขที่ 244 หมู่ 2 ต.นาคู อ.นาคู โดยใช้มีดอีโต้ขู่ฟันพนักงานที่กำลังทำความสะอาดร้าน และตะโกนว่า “หยุด นี่คือการปล้น” จนทุกคนตกใจกลัววิ่งเข้าไปหลบด้านใน คนร้ายจึงเอาแหวนทอง ซึ่งอยู่ในถาดใส่ในย่าม โดยกล้องวงจรปิดในร้านทองสามารถจับภาพ จึงเข้าจับกุม พร้อมของกลางอาวุธมีอีโต้ที่ใช้ในการก่อเหตุ แหวนทอง หลายรายการ และยาบ้าอยู่ในย่ามของผู้ก่อเหตุอีก 19 เม็ด
ผกก.สภ.นาคู กล่าวว่าเบื้องต้นนายเดชณรงค์ ซึ่งยังอยู่ในลักษณะอาการของคนเมายาเสพติด และพูดจาวกวน แต่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงเงินในร้านสะดวกซื้อและชิงทองจริง อ้างว่าต้องการนำเงินไปบริจาคให้คนพิการ และคนยากจน ตรวจสอบประวัติพบว่านายเดชณรงค์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และมีประวัติคดีลักทรัพย์ชาวบ้าน แต่มีการยอมความกัน เนื่องจากเป็นญาติ เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาคู ดำเนินคดีต่อไป
