กรมศิลป์ฯ เผยสำนักศิลปากรโคราช เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เฝ้าระวังน้ำท่วมโบราณสถาน พิมาย-กุฏิฤาษี-ปราสาทพะโค
นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รายงานเพิ่มเติมถึงผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นที่ส่งผลให้โบราณสถาน และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (พช.) ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา โดยเฉพาะที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมขัง และได้เร่งแก้ไขปัญหาพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เป็นน้ำท่วมขังสะสมในบริเวณพื้นที่ส่วนต่างๆ ของปราสาทพิมาย เนื่องจากเป็นที่ต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดต่างๆ เพื่อสูบน้ำออกจากบริเวณปราสาทลงสู่ท่อระบายน้ำของเทศบาลพิมาย โดยจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง ขณะนี้เริ่มกลับเข้าสู่สถานปกติแล้ว
“นอกจากนี้ ยังมีโบราณสถานกุฏิฤาษี ที่อยู่ห่างปราสาทพิมายไปทางใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร มีน้ำเอ่อล้นสระน้ำที่อยู่โดยรอบโบราณสถาน ทางอุทยานประวัติศาสตร์พิมายได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำออกทั้งกลางวัน และกลางคืน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในวันนี้” นายประทีป กล่าว
นายประทีปกล่าวต่อว่า ส่วนที่ พช.พิมาย ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 26 กันยายน ระดับน้ำในแม่น้ำมูลเริ่มสูงขึ้น อีกประมาณ 3-5 เซ็นติเมตร จะถึงระดับสันเขื่อนของ พช.โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ พช.และเจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารช่างที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ได้เร่งก่อกระสอบทรายกั้นบริเวณริมตลิ่งด้านหน้า พช.และบริเวณประตูน้ำที่เชื่อมคลองคูเมือง โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำออกตลอดเวลาแล้ว ทั้งนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้
“สำหรับปราสาทพะโค อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีซากอาคารโบราณสถาน 2 หลัง มีสระน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำพระเพลิง เคยถูกน้ำท่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่าโบราณสถานยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเขื่อนลำพระเพลิงมีการระบายน้ำไปแล้ว และมีการขุดลอกลำพระเพลิง ทำให้น้ำสามารถไหลระบายไปยังพื้นที่ตอนล่างได้ดีขึ้น จึงไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณนี้ อย่างไรก็ดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา จะเฝ้าระวังการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่โบราณสถานแห่งนี้ พร้อมทั้งเตรียมการหาแนวการแก้ไขต่อไป” นายประทีป กล่าว
