“จี20″ ไร้ความตกลงโลกร้อน โยนภาระหนักให้ที่ประชุม”ค็อป26”

(AP Photo/Gregorio Borgia)

จี20ไร้ความตกลงโลกร้อน โยนภาระหนักให้ที่ประชุม”ค็อป26″

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานว่า ที่ประชุมกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจสำคัญ 20 ประเทศหรือกลุ่มจี 20 ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ไม่สามารถทำความตกลงเป็นรูปธรรมใดๆ ได้ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่การเรียกร้องให้ชาติสมาชิก “กระทำการอันมีความหมายและประสิทธิภาพ” เพื่อจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับยุคก่อนหน้าการปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนใดๆ

นอกจากนั้น แม้ว่าที่ประชุมจะตกลงยุติการให้การสนับสนุนทางการเงินในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศกำลังพัฒนา แต่กลับปรับลดคำสัญญาที่จะเลิกใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าในประเทศตัวเองลง จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่ให้เกินทศวรรษ 2030 เป็น “ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ซึ่งสะท้อนให้เห็นการต่อต้านอย่างหนักจากประเทศที่ยังต้องพึ่งพาถ่านหิน อาทิ จีนชะลอการยุติใช้ถ่านหินออกไปอีก 10 ปีเป็นปี 2060 ในขณะที่ อินเดียและรัสเซียไม่ยอมกำหนดพันธะใดๆ

จี20 ยังล้มเหลวในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซมีเทน ก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญในระดับเดียวกับคาร์บอน โดยได้แต่ระบุว่า ที่ประชุมตระหนักในความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งจะจำกัดภาวะโลกร้อยได้เร็วที่สุด เท่านั้น และยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ เกี่ยวกับ “ไคลเมท ไฟแนนซ์” ที่เป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือชาติกำลังพัฒนารับมือและปรับตัวเข้ากับภาวะโลกร้อน

หลายฝ่ายออกมาแสดงความผิดหวังกับผลการประชุมครั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเดินทางมาประชุมด้วยตัวเอง แสดงความผิดหวังและกล่าวหาจีนกับรัสเซียว่าเป็นตัวการก่อความล้มเหลวในครั้งนี้ ขณะที่ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยอมรับว่าอยากเห็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานมากกว่านี้ แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามแสดงความคาดหวังในทางที่ดี เช่นนาง อังเกลา แมร์เคิลนายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่ชี้ว่า ทั้งหมดเป็นการเริ่มต้นที่ดี และนาย มาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลีซึ่งเป็นเจ้าภาพและเป็นประธานในการประชุม ซึ่งยอมรับว่าประหลาดใจกับการเปลี่ยนท่าทีของจีนและรัสเซีย แต่ก็ย้ำว่าคำพูดที่เป็นการให้สัญญาไม่สำคัญมากเท่ากับการปฏิบัติจริง

Advertisement

ทั้งนี้ จี20 มีสมาชิกสำคัญอย่างเช่น บราซิล, จีน, รัสเซีย, เยอรมนีและสหรัฐอเมริกา มีประชาการรวมกันคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของโลก และถูกระบุว่าเป็นกลุ่มประเทศที่รับผิดชอบกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลกอีกด้วย ทำให้ เจนนิเฟอร์ มอร์แกน ผู้อำนวยการกลุ่มกรีนพีซ ออกมาประนามว่า ท่าทีร่วมของจี 20 “อ่อนแอ ปราศจากวิสัยทัศน์และความทะเยอทะยาน” พร้อมทั้งชี้ว่าหากการประชุมนี้เป็นการโหมโรงการประชุมสุดยอดแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือค็อป 26 จี20 ก็แสดงให้เห็นว่าบรรดาผู้นำโลกพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ

ในขณะที่ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษซึ่งเป็นเจ้าภาพค็อป 26ชี้ว่า ผลการประชุมจี 20 ยังไม่เพียงพอที่จะยับยั้งไม่ให้เกิดผลลัพธ์หายนะขึ้นกับโลกได้ เป็นได้เพียงแค่ “หยดน้ำไม่กี่หยดลงสู่มหาสมุทรที่กำลังร้อนขึ้นเท่านั้นเอง”

ความล้มเหลวในครั้งนี้ส่งผลให้กลายเป็นภาระของค็อป26 ซึ่งเริ่มการประชุมตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ต้องผลักดันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นนั่้นเอง
//////////////

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image