สหรัฐอเมริกา จับมือ 4 ชาติปล่อยน้ำมันสำรองถล่มราคาในตลาดโลก

REUTERS/Mike Blake/File Photo/File Photo

สหรัฐอเมริกา จับมือ 4 ชาติปล่อยน้ำมันสำรองถล่มราคาในตลาดโลก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และอินเดีย ออกมายืนยันตรงกันว่าได้รับการติดต่อจากสหรัฐอเมริกา ให้พิจารณาปล่อยน้ำมันดิบในคลังปิโตรเลียมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (เอสพีอาร์) เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่จะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ความพยายามของสหรัฐดังกล่าวซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน เกิดขึ้นขณะรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน เผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากการเลือกตั้งกลางวาระที่จะมีขึ้นในปีหน้า ขณะที่เกิดแรงกดดันทางการเมืองจากการที่ราคาน้ำมันหน้าปั้มในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ สูงขึ้นตามไปด้วยคุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด ทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณแสดงความไม่พอใจต่อกลุ่มโอเปคพลัสที่ปฏิเสธคำขอของสหรัฐให้เพิ่มการผลิตก่อนหน้านี้

“เรากำลังพูดถึงการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า ชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกทั้งหลายต้องการส่งสัญญาณไปยังโอเปคว่า พวกคุณต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลกระทบทันทีต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนร่วงลงหนักถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยน้ำมันดิบเบรนท์ มาอยู่ที่ 80.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและยังคงลดลงต่อเนื่องในการซื้อขายวันเดียวกันนี้ จนอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเดือนที่แล้วราว 8 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนน้ำมันดิบดับเบิลยูทีไอ ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 78.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

Advertisement

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้หารือถึงความเป็นไปได้ที่จะประสานงานการปล่อยน้ำมันจากคลังเอสพีอาร์ด้วยกันมาตั้งแต่หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีอย่างน้อย 4 ชาติผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ในเอเชียกำลังพิจารณาเพื่อดำเนินการตามคำขอของสหรัฐอเมริกาที่กำลังจะเริ่มปล่อยน้ำมันดิบสำรองสู่ตลาดในสัปดาห์หน้านี้

สำนักงานสำรองน้ำมันแห่งรัฐของจีน ยอมรับว่า กำลังเตรียมการเพื่อการปล่อยน้ำมันดิบสำรองออกสู่ตลาด ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ก็ยืนยันคำร้องขอจากรัฐบาลไบเดนดังกล่าว แต่ระบุว่า ตามกฎหมายของญี่ปุ่น น้ำมันดิบสำรองไม่สามารถนำมาใช้เพื่อกดดันให้ราคาลดต่ำลงได้ ส่วนเข้าหน้าที่ของทางการเกาหลีใต้ ยืนยันว่า สหรัฐขอให้เกาหลีใต้ปล่อยน้ำมันดิบสำรองสู่ตลาดจำนวนหนึ่ง พร้อมระบุว่า ทางการพิจารณาดำเนินการตามคำขอ ไม่ใช่เพราะต้องการให้ราคาลดลงแต่ต้องการปรับอุปทานในตลาดให้สมดุล

ในขณะเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดน ได้ส่งหนังสือถึง คณะกรรมการกำกับดูแลการค้าแห่งสหรัฐ (เอฟทีซี) ให้ตรวจสอบบรรดาบริษัทน้ำมันในประเทศว่ามีพฤติกรรมใดเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเชื่อว่า ส่วนหนึ่งที่ราคาหน้าปั้มในสหรัฐพุ่งสูงเป็นเพราะบริษัทไม่ยอมลดราคาเมื่อราคาในตลาดโลกลดลงแต่จะขึ้นทันทีที่ราคาในตลาดปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็น “พฤติกรรมผิดกฎหมาย” ในความเห็นของไบเดน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image